(VOVWORLD) - งาน SIAL Interfood 2024 หนึ่งในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีบริษัทจากเวียดนาม 5 แห่งเข้าร่วมเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และแสวงหาโอกาสในการเจาะตลาดอินโดนีเซีย ตลอดจนตลาดระหว่างประเทศ
งาน SIAL Interfood 2024 |
งาน SIAL Interfood 2024 หนึ่งในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีบริษัทจากเวียดนาม 5 แห่งเข้าร่วมเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และแสวงหาโอกาสในการเจาะตลาดอินโดนีเซีย ตลอดจนตลาดระหว่างประเทศ
งานนี้มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดยนำเสนอความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม การบริการด้านอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และเบเกอรี่ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,200 ราย รวมถึงสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ MSME จำนวน 150 แห่ง ที่มุ่งเน้นด้านการผลิต การแปรรูป การส่งออก การนำเข้า การกระจายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม
นาย ฝ่ามเท้เกื่อง ที่ปรึกษาด้านการค้าของเวียดนามในอินโดนีเซีย เผยว่า มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามและอินโดนีเซียเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 การส่งออกของเวียดนามไปยังอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นถึง 22% ซึ่งเกิดจากความพยายามของสถานประกอบการเวียดนามผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการค้าที่หลากหลาย
"อินโดนีเซียเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรประมาณ 280 ล้านคน จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในด้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งแต่ละปีอินโดนีเซียนำเข้าสินค้าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของเวียดนาม"
แม้จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่การเจาะตลาดอินโดนีเซียต้องเผชิญกับข้อกำหนดที่เข้มงวด โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรฐานฮาลาลที่ บริษัท ลองเซิน หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ได้เปิดเผยว่า ได้เตรียมเอกสารและใบรับรองฮาลาลที่จำเป็นครบถ้วน นาย หวูท้ายเซิน ผู้จัดการบริษัท ลองเซิน เผยว่า
"นี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทเข้าร่วมงานในอินโดนีเซีย เรามุ่งเน้นที่จะส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของเราในตลาดอินโดนีเซีย และหวังว่าจะขยายฐานลูกค้า นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมใบรับรองฮาลาลอย่างครบถ้วน"
ประชากรชาวอินโดนีเซียประมาณ 87% ที่นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้ตลาดฮาลาลในอินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับหลายประเทศ เวียดนามถือเป็นประเทศที่มีข้อได้เปรียบเนื่องจากอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหมือนกันและมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน สินค้าจากเวียดนามจึงสามารถได้รับการยอมรับจากตลาดนี้ได้ง่าย ในรายงานล่าสุดของหน่วยงานรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลอินโดนีเซีย หรือ BPJPH ระบุว่า มีมากกว่า 50 ประเทศที่มุ่งหส่งเสริมความร่วมมือและขยายความร่วมมือกับอินโดนีเซียในด้านผลิตภัณฑ์ฮาลาล สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในระดับสูงจากภาคธุรกิจทั่วโลกต่อมาตรฐานฮาลาลของอินโดนีเซีย ในจำนวนนี้ BPJPH ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นจากเวียดนาม สิงคโปร์ ซาอุดิอาระเบีย สาธารณรัฐเกาหลี และอุรุกวัย เป็นต้น นาย Eko Cahyanto เลขาธิการกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย เผยว่า
“อินโดนีเซียมีความร่วมมือกับหลายประเทศในด้านนี้ โดยมีการลงนามข้อตกลงที่สอดคล้องกับมาตรฐานของอินโดนีเซีย ผมได้เดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อต้นปีนี้และได้เห็นความสนใจของเวียดนามต่อผลิตภัณฑ์ฮาลาลในอินโดนีเซีย เราเห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ฮาลาลบางรายการจากเวียดนามที่อินโดนีเซียมีความต้องการ ผลิตภัณฑ์จากเวียดนามมีคุณภาพดี ตอบสนองความต้องการตามมาตรฐานและความนิยมของผู้บริโภคชาวอินโดนีเซีย”
งาน SIAL Interfood 2024 จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน ดึงดูดผู้เข้าชมงานกว่า 90,000 คน ซึ่งถือเป็นงานสำคัญสำหรับหน่วยงานในอุตสาหกรรมอาหารและผู้บริโภคจากหลายประเทศทั่วโลก ในการขยายเครือข่าย ศึกษาข้อมูลและหาแนวโน้มใหม่ๆ สินค้าจากเวียดนาม เช่น ลูกอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ นม กาแฟ ได้รับความสนใจและการประเมินเชิงบวกจากผู้เข้าชมงาน สถานประกอบการอินโดนีเซีย และสถานประกอบการระหว่างประเทศ นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสถานประกอบการเวียดนามที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อค่อย ๆ เข้าถึงและมุ่งสู่ตลาดอินโดนีเซียที่มีศักยภาพ.