ภาพการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (Photo VNPlus)

นี่คือคำยืนยันของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊ก ซึ่งเป็นประธานอาเซียนปี 2020 ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กรุงฮานอยเมื่อบ่ายวันที่ 26 มิถุนายน โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า ในตลอด 50 ปีที่คงอยู่และพัฒนา นับเป็นครั้งแรกที่อาเซียนได้จัดการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์โดยมีผู้นำทุกชาติอาเซียนเข้าร่วมและได้มีความเห็นพ้องเกี่ยวกับทุกปัญหาสำคัญของอาเซียน  ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามัคคีภายในกลุ่ม บนเจตนารมณ์ดังกล่าว ที่ประชุมได้เห็นพ้องเนื้อหา 5 ข้อ ประกอบด้วย เน้นควบคุมการแพร่ระบาดของโรควิด-19 และผลักดันความร่วมมือภายในกลุ่ม พยายามสร้างสรรค์ประชาคมให้เข้มแข็งภายในปี 2025 และวิสัยทัศน์ปี 2030 ขยายและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆบนพื้นฐานคือการให้ความเคารพระหว่างกัน อาเซียนยืนยันธำรงบรรยากาศที่สันติภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ยกย่องการปฏิบัติตามกฎหมายต่อปัญหาระดับภูมิภาคที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกัน

ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับทัศนะของอาเซียนในสภาวการณ์ที่โลกมีการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้ยืนยันว่า “อาเซียนมีความประสงค์ว่า ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกจะมีสันติภาพ เสถียรภาพและร่วมมือเพื่อพัฒนาโดยไม่ต้องการเลือกที่จะให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากจะร่วมมือและพัฒนาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสันติภาพของภูมิภาคและหุ้นส่วนในอนาคตรวมทั้งประเทศจีนและสหรัฐคือหุ้นส่วนที่พวกเราให้ความสนใจ  เวียดนามมีความประสงค์ว่าจีนและสหรัฐจะส่งเสริมความคิดเห็นร่วมกันและฟันฝ่าความแตกต่างเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจ ผลักดันความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมของโลก”

นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า สันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคโดยเฉพาะในทะเลตะวันออกคือผลประโยชน์ร่วมของประชาคมอาเซียน ดังนั้นในเวลาที่ผ่านมาอาเซียนได้พยายามเป็นอย่างมากเพื่อมีส่วนร่วมต่อกระบวนการนี้ผ่านการธำรงการสนทนา การจัดทำกลไก ระเบียบการและหลักการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออก “ที่ประชุมได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกเป็นเขตทะเลแห่งความร่วมมือ พัฒนา มั่นคงและปลอดภัย การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลให้การหารือเกี่ยวกับ COC ถูกระงับ ดังนั้น เวียดนามและอาเซียนได้ร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ปล่อยให้เกิดความซับซ้อนมากขึ้น พวกเราได้มีการปฏิบัติDOC อย่างจริงจังและทำการเจรจาเกี่ยวกับ COC ให้มีผลบังคับใช้ มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมายสากลในเวลาข้างหน้าเพื่อสร้างสรรค์และธำรงบรรยากาศที่สันติและปลอดภัยในทะเลตะวันออก.