นาย เหงียนก๊วกเกื่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

เมื่อบ่ายวันที่ ๒๗ กันยายน ณ จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย  ได้มีการเปิดการประชุมส่งเสริมการค้าไทย-เวียดนามและนานาชาติ  ซึ่งจัดโดยสมาคมนักธุรกิจเวียดนามในต่างประเทศและสมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนาม ภายใต้การอุปถัมภ์ของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามโดยมีผู้แทนเกือบ ๕๐๐ คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวเวียดนามซึ่งเป็นผู้บริหารสถานประกอบการจากเวียดนาม ไทยและ ๒๘ ประเทศเข้าร่วม 
นาย โห่วันเลิม อุปนายกสมาคมนักธุรกิจเวียดนามในต่างประเทศและนายกสมาคมนักธุรกิจไทย เวียดนามเผยว่า ทางสมาคมยืนยันและสานต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนที่กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งระหว่างเวียดนามกับไทย ขณะนี้ ไทยเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียน และไทยกำลังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับสถานประกอบการและพลเมืองเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
นาย เหงียนก๊วกเกื่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามในต่างประเทศได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศใช้เงื่อนไขที่กำลังมีอยู่ของแต่ละประเทศอย่างเต็มที่ ค่อยๆผลักดันการลงทุน การค้า นำผลิตภัณฑ์และสินค้าเวียดนามไปสู่ตลาดโลก ขณะนี้ มีชาวเวียดนาม ๔.๕ ล้านคนกำลังอาศัยและทำงานในต่างประเทศ รวมทั้งชมรมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามโดยมีบุคคลหลายคนที่มีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาของประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ขณะนี้ ไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนามโดยมีเกือบ ๕๐๐ โครงการ รวมมูลค่าเกือบ ๑ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยแต่ละปี มีปัญญาชน ๓๐๐ ถึง ๕๐๐ คนเดินทางกลับประเทศเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม ผู้ประกอบการของชาวเวียดนามในต่างประเทศได้กลับมาลงทุนและประกอบธุรกิจภายในประเทศโดยมีกว่า ๓ พันโครงการ รวมยอดเงินจดทะเบียนเกือบ ๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี ๒๐๑๘ จำนวนเงินตราต่างประเทศที่ส่งกลับประเทศบรรลุ ๑ หมื่น ๕ พัน ๙ ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น ๖.๖ จีดีพีของประเทศ
ส่วนนาย วัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีๆได้เผยว่า จังหวัดอุดรธานีมีประชากร 1.2 ล้านคนโดยมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอาศัยเป็นจำนวนมากที่ได้มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการพัฒนาของจังหวัดฯ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในภาคอีสานของไทย เป็นตลาดอันกว้างใหญ่ของภูมิภาค โดยเฉพาะสินค้าเกษตร พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า จะสร้างเส้นทางการค้าผ่านลาวไปยังเวียดนาม ผ่านการพบปะหารือในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะมีความเข้าใจกันเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจของสองประเทศพัฒนามากขึ้น 
ในการประชุม นาย กาววันโจว์ รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจได้เผยว่า จังหวัดเบ๊นแจกำลัง ผลักดันนโยบายเรียกร้องนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนที่จังหวัดฯอย่างเข้มแข็ง “ขณะนี้ ไทยเป็นนักลงทุนที่รายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเบ๊นแจ โดยมี ๘โครงการ รวมยอดเงินลงทุน ๑๙๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ จุดแข็งและศักยภาพของจังหวัดเบ๊นแจจะตอบสนองความต้องการด้านวัตถุดิบสำหรับหน่วยงารอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรของสถานประกอบการไทย”
โอกาสนี้ยังได้มีการจัดการเสวนาเกี่ยวกับการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการท่องเที่ยว และได้มีการลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือด้านการส่งออกและการค้าระหว่างสถานประกอบการของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ นอกจากนั้น สมาคมนักธุรกิจเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทยและลาวได้ลงนามข้อตกลงเพื่อกระชับและผลักดันการปฏิบัติงานระหว่างสมาคมฯ ตลอดจนโครงการเชื่อโยงการแลกเปลี่ยนการค้าและการกำหนดแนวทางร่วมมือในระยะยาว.