ในการกล่าวเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรีย้ำถึงจิตใจที่ว่า "ยิ่งยาก ยิ่งซับซ้อน ยิ่งอ่อนไหว ยิ่งต้องสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีประชาธิปไตยมากขึ้น รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อฟันฝ่าความยากลำบากและความท้าทายทั้งปวง" นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อไป แสวงหาแนวทางส่งเสริมการผลิต สนับสนุนการประกอบธุรกิจ และร่วมกับทั้งประเทศ "ปรับตัวได้อย่างปลอดภัย คล่องตัว ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" เพื่อการฟื้นฟูการผลิต การประกอบธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในการประชุม ผู้แทนภาคธุรกิจและสมาคมธุรกิจต่างยินดีกับนโยบายการเปลี่ยนเป้าหมาย "ไม่มีโควิด" เป็น "การปรับตัวอย่างปลอดภัย มีความยืดหยุ่น และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ" พร้อมทั้งได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมกับรัฐบาลและประชาชนทั่วประเทศเอาชนะโรคระบาด ฟื้นฟูและส่งเสริมการผลิต และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนได้มีการเสนอข้อเสนอแนะมากมายเพื่อเป้าหมายค้ำประกันการป้องกันการแพร่ระบาดและเปิดดำเนินการทางเศรษฐกิจอีกครั้งในเร็ววันนี้

ในการกล่าวสรุปการประชุม เกี่ยวกับข้อเสนอแนะของชมรมผู้ประกอบการ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับสภาแห่งชาติเพื่อพยายามติดตามการประกอบธุรกิจบนเจตนารมณ์ "อย่าพูดว่าไม่ อย่าพูดว่ายาก อย่าตอบว่าได้แต่ไม่ทำ"และ "ความจริง 5 ประการ" คือ "คิดจริง พูดจริง ทำจริง มีประสิทธิภาพจริง คนและสถานประกอบการได้ผลลัพธ์จริง"

นายกรัฐมนตรีกำชับให้ท้องถิ่น กระทรวง และหน่วยงานสาขาต่างๆ เร่งเตรียมแผนการ"การปรับตัวอย่างคล่องตัว ปลอดภัย การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการบริหารด้านระเบียบราชการ ตอบรับข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจเพื่อดำเนินการต่อไปตามความสามารถของตนในมุมมองที่ว่า “สร้างความกลมกลืนทางผลประโยชน์ ร่วมแบกรับความเสี่ยง” พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกร้องให้มีความร่วมมือ สามัคคี และแบ่งปันระหว่างภาคธุรกิจ รัฐ และประชาชน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดจากโรคระบาดไปด้วยกัน.