(Photo: vietnamplus.vn)

  นี่ถือเป็นศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีความดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส  ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ฝรั่งเศส  ซึ่งเป็นเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ2ของยุโรปเท่านั้น หากรวมทั้งสหภาพยุโรปหรืออียูอีกด้วย  โดยคูหาเลือกตั้งในฝรั่งเศสเกือบ6หมื่น7พันแห่งได้เปิดให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 45ล้านคนเข้าไปลงคะแนน  ก่อนหน้านั้น ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งฝรั่งเศสที่อาศัยในต่างประเทศได้ออกไปลงคะแนนเลือกประธานาธิบดี

การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่2นี้เป็นการแข่งขันระหว่างนาย เอ็มมานูเอล มาครงกับนาง มารีน เลอ แปน  ซึ่งผลการสำรวจประชามติครั้งล่าสุดปรากฎว่า อัตราผู้ที่ให้การสนับสนุนนาย มาครงอยู่ที่ร้อยละ59 ส่วนที่เหลือเป็นของนาง  มารีน เลอ แปน    ซึ่งการคัดเลือกของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งฝรั่งเศสในวันที่7พฤษภาคมนี้จะตัดสินใจแนวทางการพัฒนาฝรั่งเศส  โดยผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสมีทัศนะที่แตกต่างกัน ถ้าหากนาย เอ็มมานูเอล มาครงให้การสนับสนุนกระบวนการโลกาภิวัตน์และการผสมผสานเข้ากับอียู  นาง มารีน เลอ แปนกลับมีแนวทางปิดชายแดนและยุติการใช้เงินยูโร

คาดว่า ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นจะได้รับการประกาศในเช้าวันที่8พฤษภาคมและประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสจะเข้าพิธีสาบานรับตำแหน่งในวันที่14พฤาภาคมนี้.