ข้อความแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม
(VOVWORLD) -ในนามของสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม พร้อมที่จะเดินหน้าร่วมกับภาครัฐและเอกชนของไทยและเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี พหุภาคีและแสวงหาความร่วมมือในบริบทใหม่ โดยเฉพาะภายหลังสถานการณ์โควิด-19คลี่คลายอันจะอำนวยประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยกับเวียดนาม และขับเคลื่อนทั้งสองประเทศให้ก้าวสู่ความรุ่งเรืองและยั่งยืนต่อไป
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนาม มีพัฒนาการอย่างก้าวหน้ามั่นคงและต่อเนื่อง และทวีความเข้มแข็งมากขึ้นในทุกๆ ปี ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมานี้ได้ก่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ทั้งสองประเทศยังสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันในกรอบความร่วมมือทวิภาคี และพหุภาคี ที่เอื้อประโยชน์ต่อการอำนวยความสะดวกทางการค้าและพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจเพื่อที่จะนำไปสู่ยุคใหม่ของการเติบโตและความมั่งคั่งในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในกรอบความร่วมมือ GMS, ACMEC, CLMVT ในอาเซียนในกรอบของ RCEP รวมถึงประชาคมโลก ในกรอบของ APEC เป็นต้น
ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของไทยและเวียดนามนี้ ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ของทั้งสองประเทศผนวกกับกลไกที่มีศักยภาพของภาครัฐและเอกชน ที่ครอบคลุมทุกมิติและมุ่งสานต่อความเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง” โดยเฉพาะในด้านความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ที่ทั้งสองประเทศต่างเป็นคู่ค้ามิใช่คู่แข่ง และสามารถส่งเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกันได้
เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนาม เป็นไปอย่างราบรื่นและใกล้ชิด ภาครัฐและเอกชนไทยได้เห็นชอบในการจัดตั้งกลไกภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้น คือ สมาคมมิตรภาพไทย – เวียดนาม (Thailand-Vietnam Friendship Association) และสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม(Thailand-Vietnam Business council)โดยสมาคมมิตรภาพไทย – เวียดนามมีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับภาคประชาชนและภาคประชาสังคมของเวียดนามอย่างรอบด้านในขณะที่สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม มุ่งเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุน ผลักดันการแก้ปัญหาอุปสรรคทางธุรกิจการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจไทย-เวียดนาม
นอกจากนี้ ในปี 2564 ภาครัฐและเอกชนไทยต่างเห็นพ้องที่จะจัดตั้งหอการค้าและอุตสาหกรรมไทย (Thai Chamber of Commerce and Industry: CCI) ขึ้นในเวียดนามซึ่งจะเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เพื่อสร้างเวทีในการเจรจาที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม
ในนามของสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม พร้อมที่จะเดินหน้าร่วมกับภาครัฐและเอกชนของไทยและเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี พหุภาคีและแสวงหาความร่วมมือในบริบทใหม่ โดยเฉพาะภายหลังสถานการณ์โควิด-19คลี่คลายอันจะอำนวยประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยกับเวียดนาม และขับเคลื่อนทั้งสองประเทศให้ก้าวสู่ความรุ่งเรืองและยั่งยืนต่อไป
สนั่น อังอุบลกุล
ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม