จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขี้นกว่า3,000ราย (VNA)

รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐได้เผยว่า มีผู้เสียชีวิตรายที่ 2 จากโรคโควิด-19 ก่อนหน้านั้น รัฐวอชิงตัน ได้มีผู้เสียชีวิตรายแรกเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์และทั่วประเทศสหรัฐมีผู้ติดเชื้อ 70 ราย ในขณะเดียวกัน จนถึงเวลา 10.30น.ของวันที่ 2 มีนาคม ญี่ปุ่นได้พบผู้ติดเชื้อ 971 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส 705 รายและมีผู้เสียชีวิต 12 ราย

ส่วนในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 2 มีนาคม นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เผยว่า ได้พบผู้ติดเชื้อรายแรก 2 คน โดยเป็นหญิงและลูกสาวที่เคยพบปะพูดคุยกับพลเมืองญี่ปุ่นที่เคยเดินทางเข้าประเทศอินโดนีเซียก่อนที่จะถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ประเทศมาเลเซียหลังจากเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์

ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี เยอรมนี สเปนและอังกฤษได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขอิตาลีได้เผยว่า เมื่อค่ำวันที่1 มีนาคม ได้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 550 ราย ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น1688 รายและมีผู้เสียชีวิต 34ราย ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อ130 ราย ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ในยุโรปรองจากอิตาลี ส่วนที่ประเทศเยอรมนี จำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นจาก 66รายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์เป็น 129 รายในวันที่ 1 มีนาคมและพบผู้ติดเชื้อใน 9รัฐจากจำนวนทั้งหมด 16 รัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีได้เผยว่า เยอรมนีอาจสั่งปิดเมืองต่างๆเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนที่ประเทศสเปน จำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็น 80รายและอังกฤษพบผู้ติดเชื้อ35 ราย

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดในภูมิภาคตะวันออกกลางก็มีความรุนแรงมากขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนได้เผยว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 รายที่เพิ่งกลับมาจากประเทศอิหร่าน ทำให้ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 10ราย ซึ่งทางการเลบานอนได้สั่งปิดโรงเรียนและระงับเที่ยวบินจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด เช่น จีน อิหร่าน อิตาลีและสาธารณรัฐเกาหลี ส่วนบาห์เรนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่6 รายและอิรักพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6 รายที่เพิ่งกลับมาจากประเทศอิหร่าน ส่วนที่ประเทศอิร่าน ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองจากประเทศจีน นายSaeed Namaki รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิหร่านได้สั่งระดมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3แสนนายเพื่อรับมือการแพร่ระบาดตั้งแต่วันที่ 2มีนาคม