( VOVworld )-พิธีต้อนรับท่าน โอลาเฟอร์ แรกนาร์ กริมสันประธานาธิบดีสาธารณรัฐไอซแลนด์และภริยาได้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ณ ทำเนียบประธานประเทศ เมื่อเช้าวันที่ ๔ เดือนนี้  หลังจากนั้น ท่านเจืองเติ้นซางประธานประเทศเวียดนามและท่านโอลาเฟอร์ แรกนาร์ กริมสันประธานาธิบดีสาธารณรัฐไอซแลนด์ได้มีการเจรจาเพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ  ในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ท่านเจือง เติ้น ซางได้เสนอให้ทั้งสองประเทศขยายการแลกเปลี่ยนและการพบปะในทุกระดับ โดยทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องสนับสนุนผู้ประกอบการในการแสวงหาโอกาสการประกอบธุรกิจและเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะในด้านที่ไอซแลนด์มีศักยภาพและเวียดนามมีความต้องกัเช่น การประมงและการแปรรูปสัตว์น้ำตลอดจนพลังงานหมุนเวียน

ส่วนท่าน โอลาเฟอร์ แรกนาร์ กริมสันประธานาธิบดีสาธารณรัฐไอซแลนด์ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเยือนเวียดนามครั้งนี้เพื่อขยายความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนามในการทำประมงอย่างยั่งยืน การใช้ประโยชน์พลังงานสะอาดและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยทั้งสองประเทศ   ในโอกาสนี้ จะจัดการสัมมนาสองครั้งเกี่ยวกับการทำประมงและพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าพลังความร้อน อีกทั้งยืนยันจะเพิ่มทุนการศึกษาในด้านนี้ให้แก่นักศึกษาเวียดนาม รวมถึงการใช้หลักสูตรการศึกษาของสหประชาชาติ ณ ไอซแลนด์ในด้านสัตว์น้ำและไฟฟ้าพลังความร้อน

ผู้นำทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกันเช่น การที่ไอซแลนด์สนับสนุนเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและสภาเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งแสดงความประสงค์ว่า ไอซแลนด์จะสนับสนุนเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติวาระปี ๒๐๒๐-๒๐๒๑  สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ผู้นำทั้งสองประเทศได้ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ตามฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี ๑๙๘๒  ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องควรจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ทรงประสิทธิภาพเพื่อรักษาสันติภาพ ความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดือนเรือและการบินตลอดจนการค้าในทะเลตะวันออก

ส่วนในการประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา ท่านเจือง เติ้น ซาง ประธานประเทศได้ย้ำอีกครั้งถึงความสำคัญของการผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศ อีกทั้งยืนยันว่า เวียดนามจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีและความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ท่านเจือง เติ้น ซางกล่าวว่า  “ พวกเราเห็นด้วยที่จะผลักดันความร่วมมือในด้านที่ไอซแลนด์มีศักยภาพและเวียดนามมีความต้องการ ผมขอยืนยันถึงความตั้งใจที่จะทำการเจรจาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับกลุ่มตลาดเสรียุโรปหรืออีเอฟทีเอ โดยให้ความสนใจถึงผลประโยชน์ของทุกฝ่ายและคำนึกถึงช่องว่างในการพัฒนา  พวกเราหวังว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะเป็นโอกาสใหม่ให้แก่บรรดาผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ ”

ท่านโอลาเฟอร์ แรกนาร์ กริมสันประธานาธิบดีสาธารณรัฐไอซแลนด์ได้ย้ำว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีโดยเร็วจะเป็นแรงกระตุ้นความร่วมมือระหว่างสองประเทศและเห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาเพื่อลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสองประเทศโดยเร็ว  โอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามกับกระทรวงการต่างประเทศไอซแลนด์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยกับมหาวิทยาลัยเรคยาวิก.