ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีกัน
(VOVWORLD) -เที่ยงวันที่ 20 มกราคม ตามเวลาสหรัฐ นาย โจ ไบเดน ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 โดยพิธีรับตำแหน่งได้มีขึ้น ณ กรุงวอชิงตันท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
นาย โจ ไบเดน กล่าวปราศรัยในพิธี (Photo PATRICK SEMANSKY/AP) |
ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐรายงาน ขนาดของงานเล็กกว่าปกติเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 และสถานการณ์ความไม่สงบ โดยมีการเชิญแขกเข้าร่วมแค่ 1,000 คนจากปรกติที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 2 แสนคน
ในพิธีสาบานตน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีเพื่อรับมือความท้าทายต่างๆของสหรัฐ ถึงแม้เป็นการยากที่จะปฏิบัติในทันทีแต่ความสามัคคีคือมาตรการเดียวเพื่อช่วยให้สหรัฐฟันฝ่าอุปสรรคในปัจจุบัน “ถ้าหากสามัคคีกัน เราจะสามารถทำเรื่องที่สำคัญต่างๆได้ เราจะแก้ไขความผิดพลาด สามารถช่วยให้แรงงานมีงานทำที่ดีขึ้น ค้ำประกันให้เด็กๆไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย เราสามารถฟันฝ่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และสามารถฟื้นฟูประเทศ สนับสนุนชนชั้นกลางและมีความเสมอภาคระหว่างชนเผ่าต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐเป็นประเทศนำหน้าในทั่วโลกต่อไป”
สำหรับนโยบายการต่างประเทศ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ให้คำมั่นว่า จะสมานความสัมพันธ์พันธมิตรและแก้ไขปัญหาต่างๆของโลกต่อไป
บรรดาผู้นำประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เช่น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีอินเดีย นายกรัฐมนตรีปากีสถาน นายกรัฐมนตรีสเปน นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประธานาธิบดีเยอรมนี ประธานสภายุโรป พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้แสดงความยินดีถึงประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐเพื่อแก้ไขความท้าทายร่วมกัน
นาย โจ ไบเดน ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 (Photo PATRICK SEMANSKY/AP) |
ในขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศและองค์กรต่างๆในยุโรป เช่น นาง อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมการยุโรป นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน โฆษกวังเครมลิน ดมิตรี เปสคอฟ นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม Alexander De Croo ต่างก็กล่าวว่า จะผลักดันความสัมพันธ์กับสหรัฐ
หลังจากที่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นาย โจ ไบเดน ได้ลงนามอนุมัติคำสั่ง 15 ฉบับทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความไม่เท่าเทียมกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงนโยบายบางเรื่องที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศบังคับใช้ เช่น การนำประเทศสหรัฐกลับเข้าร่วมข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการยกเลิกโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL.