มีความเสี่ยงที่อุณหภูมิของโลกเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
(VOVWORLD) -ตามการประเมินของ Paris Equity Check ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม การปฏิบัตินโยบายเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของประเทศที่ร่ำรวยและเศรษฐกิจที่เพิ่งเกิดใหม่ที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับสูงส่วนใหญ่อาจทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
ตัวเลข 1.5 องศาเซลเซียสคือเป็นระดับความปลอดภัยที่ได้รับการยืนยันอีกครั้งในการประชุมครั้งที่ 27 รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ เมือง ชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์เมื่อเดือนก่อน
ตามการประเมินของ Paris Equity Check ซึ่งเป็นองค์การที่สนับสนุนข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาและนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศต่างๆ นโยบายเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่ประเทศที่ร่ำรวยต่างๆ เช่น สหรัฐ แคนาดาและสหภาพยุโรปกำลังปฏิบัติอาจทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นจาก 2.1 องศาเซลเซียสเป็น 3.4 องศาเซลเซียส บวกกับนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของเศรษฐกิจที่เพิ่งเกิดใหม่ได้แก่ จีน รัสเซีย ซาอุดิอาระเบียและตุรกีอาจสร้างผลกระทบที่หนักหน่วงมากขึ้นและมีความเสี่ยงที่อุณหภูมิของโลกอาจเพิ่มขึ้น 5 องศาเซลเซียสในปลายศตรรษนี้
ในขณะเดียวกัน บรรดาประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกส่วนใหญ่กำลังปฏิบัติขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส แต่อย่างไรก็ดี บรรดานักวิจัยได้เตือนว่า ประเทศเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากประเทศที่ร่ำรวยเพื่อรักษาอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ให้อยู่ในระดับต่ำหลังปี 2030 ในขณะที่อุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้น 1.2 องศาเซลเซียสได้ก่อให้เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม คลื่นความร้อนและพายุ.