นาง ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (Internet)

สหรัฐได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลีหรือเกาหลีเหนือภายหลังการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่๓เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  โดยนาง ซูซาน ไรซ์  เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติได้ส่งร่างมติเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่ต่อเปียงยางถึง๑๔ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและมีความเป็นไปได้ที่จะจัดการลงคะแนนร่างมติดังกล่าวในวันที่๗มีนาคม  แหล่งข่าวจากสหประชาชาติระบุว่า  ในร่างมติดังกล่าว  มีบุคคล๓คนและเครือบริษัท๒แห่งถูกระบุในรายชื่อถูกอายัดทรัพย์สินและห้ามการเดินทาง  ทำให้มีถึง๑๗บริษัทและบุคคล๙คนถูกคว่ำบาตร     มติดังกล่าวยังบังคับให้ประเทศและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องยุติการทำธุกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องถึงโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ  การส่งออกอาวุธของสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน เกาหลี  ผลักดันการเฝ้าติดตามเจ้าหน้าที่การทูตของสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน เกาหลี  พร้อมทั้งย้ำว่า  ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติต้องไม่ให้เครื่องบินที่ถูกสงสัยว่า ขนส่งวัตถุดิบผลิตนิวเคลียร์และขีปนาวุธถูบินผ่านเขตน่านฟ้าของตน  ส่วนจีนได้แสดงการสนับสนุนต่อมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และคัดค้านการทดลองนิวเคลียร์ของเปียงยาง  พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศมีปฏิบัติการเพื่อยุติโครงการดังกล่าวโดยเร็ว   แต่อย่างไรก็ดี  นาย  หลี เป่าตง  เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติได้ย้ำว่า  สหประชาชาติควรเน้นลดความตึงเครียดผ่านมาตรการทางการทูต ในขณะเดียวกัน  นาย  Alexander Lukashevichโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้เผยว่า  มอสโคว์ประเมินเนื้อหาของร่างมติดังกล่าวที่มีความสมดุลและสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลของรัสเซีย   ในวันเดียวกัน  ในการเจรจาผ่านโทรศัพท์ นาง ปาร์ค กึน เฮ  ประธานาธิบดีสาธารณรัฐ เกาหลีและนาย  ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เห็นพ้องที่จะมีท่าทีร่วมกันต่อการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่๓ของเปียงยางเมื่อวันที่๑๒กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  พร้อมทั้งจะประสานกับสหรัฐในการผลักดันการออกมติฉบับใหม่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ    ในขณะเดียวกัน  สำนักข่าว Yonhap ของสาธารณรัฐ เกาหลีได้อ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลที่รายงาน  วันที่๖มีนาคมว่า  สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน เกาหลีได้กำหนดเขตห้ามบินและห้ามเรืออยู่นอกชายฝั่งทางทิศตะวันออกและตะวันตกของประเทศนี้   ปฏิบัติการดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า  เปียงยางจะทำการซ้อมรบครั้งใหญ่และมีความเป็นไปได้ที่เปียงยางจะทำการทดลองขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลาง./.