ภาพของพิธี

หนังสือปกขาวเสนอข้อเสนอต่างๆเพื่อส่งเสริมประเด็นที่ได้รับความสนใจในการลงทุนและการค้า  ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบาย สถานประกอบการ นักวิชาการและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องของเวียดนามและยุโรปมีมุมมองต่างๆเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ  ทำการวิเคราะห์และอัพเดทนโยบายเพื่อสนับสนุนการสนทนาทวิภาคีเกี่ยวกับแนวโน้ม ความท้าทายและโอกาสในด้านต่างๆ เช่น ความยั่งยืน การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การเงินและโครงสร้างพื้นฐาน ในการนี้ นาย Julien Guerrier เอกอัครราชทูตอียูประจำเวียดนาม ย้ำว่า

“ ผมเชื่อมั่นว่า ความมีเสถียรภาพในการลงทุนของสถานประกอบการอียูในเวียดนามมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในระยะยาว พวกเราตั้งความหวังว่า การค้าสินค้าระหว่างเวียดนามกับอียูจะพัฒนาต่อไปและมีการขยายตัวทั้งในด้านการส่งออกและนำเข้าในอนาคต  ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของอียูในอาเซียนและเป็น 1  ใน 16 หุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของอียูในตลาดโลก อียูเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดและมีคำมั่นเกี่ยวกับการค้ำประกันความยั่งยืนในการลงทุนในเวียดนาม การปฏิบัติข้อตกลง EVFTA และส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองฝ่าย จะเปิดโอกาสให้แก่การขยายการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ ข้อเสนอต่างๆที่ถูกระบุในหนังสือปกขาวนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อการขยายตัวในเวียดนาม”

ส่วนนาย Gabor Fluit ประธาน EuroCham ได้ยืนยันว่า  EuroCham พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับเวียดนามในกระบวนการพัฒนา.