แต่อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลสถิติ ถึงแม้จำนวนโครงการเอฟดีไอที่ได้รับใบอนุญาตจากเวียดนามในปี 2021 ต่ำกว่าปี 2020 ประมาณร้อยละ 31 แต่เงินลงทุนจดทะเบียนให้แก่โครงการใหม่ๆได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า โครงการที่มีขอบเขตใหญ่และคุณภาพสูงมีแนวโน้มเข้ามาแทนที่โครงการขนาดเล็ก

ในปี 2021 เวียดนามสามารถดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอได้กว่า 3 หมื่น 1 พัน 1 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งเงินลงทุนจดทะเบียนใหม่ เงินลงทุนเพิ่มเติมและเงินซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนขอบเขตเงินลงทุนเฉลี่ยแต่ละโครงการอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย โด๋เญิดหว่าง อธิบดีกรมลงทุนต่างชาติสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนเผยว่า            “ในสัดส่วนของเงินลงทุน โครงการด้านอุตสาหกรรมแปรรูป อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์นับวันเพิ่มมากขึ้น คิดเป็นเกือบร้อยละ 60 โดยเฉพาะในปี 2021 มีโครงการลงทุนในด้านระบบนิเวศสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งช่วยให้กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าเวียดนามนับวันมีคุณภาพมากขึ้น”

ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความคิดเห็นว่า โควิด -19 ได้ช่วยกำหนดแหล่งเงินลงทุนที่ไหลเข้าเวียดนาม ซึ่งนักลงทุนไม่เพียงแต่เลือกเวียดนามเนื่องจากมีบรรยากาศการลงทุนที่น่าสนใจ มีค่าใช้จ่ายและค่าจ้างแรงงานถูกเท่านั้น หากยังเพราะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการเพิ่มมูลค่าในห่วงโซ่อุปทานอีกด้วย

สำหรับการลงทุนในเวียดนามในปีต่อๆไป สมาคมการค้าสหรัฐประจำเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า มีสถานประกอบการต่างชาติเกือบร้อยละ 80 ได้ประเมินศักยภาพในการลงทุนในเวียดนามในระยะกลางและระยะยาวว่าอยู่ในระดับที่ดีมากหรือดี ส่วนธนาคาร Standard Chartered เผยว่า มีบริษัทข้ามชาติกว่าร้อยละ 40 กำลังเกาะติดสถานการณ์การผลิตในเวียดนามหรือมีแผนการเปิดสำนักงานตัวแทนในเวียดนามและยืนยันว่า ความผันผวนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นปัญหาระยะสั้นที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจต่อการลงทุนในระยะยาวในเวียดนามของนักลงทุนต่างชาติ.