(VOVWORLD) - การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 11 สมัยที่ 14ซึ่งเป็นประชุมนัดสุดท้ายของการประชุมสภาแห่งชาติสมัยนี้ได้เปิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 24 มีนาคม ณ กรุงฮานอย
ภาพการประชุม |
โดยมีท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศ นาย เหงียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรี นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติ พร้อมบรรดานักปฏิวัติอาวุโส ตัวแทนของคณะทูตานุทูตและผู้แทนสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 หลายคนเข้าร่วม
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติได้เผยว่า ในตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา สภาแห่งชาติได้ร่วมมือกับสำนักประธานประเทศ รัฐบาล สำนักงานและองค์การต่างๆที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย สร้างพลังที่เข้มแข็งเพื่อร่วมมือกับพรรค ประชาชนและกองทัพบรรลุผลงานที่ยิ่งใหญ่ มีความหมายที่สำคัญ ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของประเทศ เสริมสร้างความไว้วางใจของประชาชนต่อพรรคและรัฐ
“การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสเพื่อประเมิน ทบทวนผลงานที่ได้บรรลุ ข้อจำกัดและปัญหาที่ยั่งคั่งค้างอยู่ในด้านนิติบัญญัติ การบังคับใช้กฎหมาย ตุลาการและการปฏิบัติงานในด้านอื่นๆเพื่อวิเคราะห์สาเหตุ ถอดบทเรียน ประสบการณ์เพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การเปลี่ยนแปลงใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในสมัยต่อไป สร้างสถานะและพลังที่เข้มแข็งเพื่อนำประเทศเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่”
ที่ประชุมสภาแห่งชาติจะหารือ ประเมินผลการปฏิบัติงานของสภาแห่งชาติในสมัยที่ 14 พิจารณารายงานการปฏิบัติงานในช่วงปี 2016-2021 ของประธานประเทศ รัฐบาล ศาลประชาชนสูงสุด สถาบันอัยการประชาชนสูงสุด พิจารณา การพ้นจากตำแหน่ง ลงคะแนนเลือกและอนุมัติตำแหน่งสำคัญๆในกลไกของรัฐเพื่อตอบสนองความต้องการในการปฏิบัติมติของสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13
นอกจากนี้ ที่ประชุมสภาแห่งชาติยังพิจารณาและอนุมัติร่างกฎหมายการป้องกันและต่อต้านยาเสพติดฉบับแก้ไข พิจารณาและตัดสินใจจำนวนผู้แทนวิชาชีพของสภาประชาชนกรุงฮานอยวาระปี 2021-2026 ศึกษาและพิจารณารายงานอื่นๆของรัฐบาล รวมทั้งรายงานประเมินผลการปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2020 เพิ่มเติม
หลังจากกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นาง เหงียนถิกิมเงิน ได้อ่านรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่อง อ่านรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานวาระปี 2016-2021 ของสำนักประธานประเทศ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก อ่านรายงานสรุปผลการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงปี 2016-2021 ของรัฐบาล.