เปิดการประชุมครั้งที่18คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภา
(VOVworld)- เช้าวันที่14พฤษภาคม คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้เปิดประชุมครั้งที่18ภายใต้อำนวยการของประธานรัฐสภาเหงวียนซิงหุ่ง ในครั้งนี้ที่ประชุมได้แสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไขต่อไป พิจารณาผ่านความเห็นชอบ ร่างโครงการเปลี่ยนแปลงใหม่องค์กรสำนักรัฐสภา
|
(VOVworld)- เช้าวันที่14พฤษภาคม คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้เปิดประชุมครั้งที่18ภายใต้อำนวยการของประธานรัฐสภาเหงวียนซิงหุ่ง ในครั้งนี้ที่ประชุมได้แสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไขต่อไป พิจารณาผ่านความเห็นชอบ ร่างโครงการเปลี่ยนแปลงใหม่องค์กรสำนักรัฐสภาและมติแก้ไขและเสริมเพิ่มเติมหน้าที่ อำนาจและองค์กรสำนักรัฐสภา ตลอดจนรับฟังรายงานการเตรียมความพร้อมให้แก่การลงคะแนนไว้วางใจผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆในการประชุมรัฐสภาครั้งที่5 ท่านเหงวียนซิงหุ่งกล่าวว่า การลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้บริหารระดับสูงคือส่วนงานที่สำคัญที่ได้รับการปฏิบัติเป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ระบบการเมืองของพรรคและรัฐรวมทั้งเป็นการเพิ่มอำนาจการตรวสอบของรัฐสภาต่องานด้านบุคลากรของพรรคและรัฐ ดังนั้นเราต้องเตรียมงานอย่างรอบคอบเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีภาวะวิสัยและจริงจังบนพื้นฐานการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่และคุณธรรมของผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่างที่อยู่ในกรอบการลงคะแนนครั้งนี้ หลังพิธีเปิด ที่ประชุมได้หารือรายงานฉบับเสริมของรัฐบาลที่ประเมินสถานการณ์การปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและงบประมาณปี2012และในช่วงต้นปี2013 โดยความเห็นส่วนใหญ่ได้เห็นพ้องกับรายงานของรัฐบาลที่ระบุว่าแม้ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่มีความผันผวนมากมายแต่จากความพยายามของทั้งระบบการเมือง เวียดนามก็สามารถบรรลุผลงานที่สำคัญต่างๆเช่นการได้เปรียบดุลการค้า780ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถึงอย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของประเทศยังคงต้องรับมือกับอุปสรรคที่หนักหน่วงมากกว่านี้ ซึ่งจะเห็นได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี2012บรรลุเพียงร้อยละ5.03 ต่ำกว่าการพยากรณ์ของที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่4คืออยู่ที่ร้อยละ5.2และรวมทั้งต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ6-6.5ที่รัฐสภาวางไว้ นาย k’so Phuóc ประธานสภาชนเผ่าแห่งรัฐสภากล่าวว่า มาตรการเฉพาะหน้าคือต้องปรับปรุงนโยบายการเงินและแก้ปัญหาสินค้าค้างสต๊อค ส่วนนาย ฟานจูงลี้ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายเห็นว่า ต้องมาตรการที่ก้าวกระโดดเพื่อแก้ไขอุปสรรคของเศรษฐกิจทั้งในปีนี้และปีต่อไปโดยนอกจากการงด ยกเว้นหรือพักหนี้ที่ใช้เป็นมาตรการเร่งด่วนแล้ว ต้องมีมาตรการสร้างพลังกระตุ้นให้สถานประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาการผลิต./.