รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝามบิ่งมิงกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Photo: Baoquocte)

ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปีประธานอาเซียนและการเตรียมความพร้อมให้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนปี 2020 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ได้ชี้ชัดว่า ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อาเซียนกำลังต้องเผชิญกับทั้งโอกาสและความท้าทายต่างๆ ดังนั้น ประเทศอาเซียนต้องยืนหยัดเป้าหมายการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในปี 2025 ในความพยายามร่วมเพื่อแก้ไขความท้าทาย บรรดาประเทศอาเซียนได้มีมาตรการช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อปกป้องประชาชน ลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดต่อเศรษฐกิจ-สังคม รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้ย้ำว่า

“ความพยายามและความร่วมมือของประเทศอาเซียนในการต่อสู้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี แต่ภูมิภาคกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆเนื่องจากการแข่งขันของประเทศใหญ่ๆ ลัทธิโลกระบบ 1 ขั้ว ( Unipolarism)  ได้ส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ด้วยจิตใจแห่งความร่วมมือของอาเซียน การประชุมในวันนี้คือโอกาสเพื่อหารือถึงมาตรการแก้ไขความท้าทายนี้ ผลักดันเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ หารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ประเทศต่างๆให้ความสนใจ”

ในการประชุม บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศได้หารือเกี่ยวกับเนื้อหาหลักที่เกี่ยวข้องถึงการปฏิบัติผลการประชุมระดับสูงพิเศษอาเซียนและอาเซียน+3 การสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน 2025 ปฏิบัติเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนามและการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาค แก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงแบบใหม่และแบบเก่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้ยืนยันว่า เวียดนามจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อผลักดันเป้าหมายร่วมของประชาคมบนพื้นฐานความสามัคคี ความเป็นเอกฉันท์ของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค.