นักบวชหญิงเมียนมาร์เรียกร้องให้ทหารยุติการยิงประชาชน (Photo The Guardian)

ในแถลงการณ์ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์หลังจากที่กองทัพเมียนมาร์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์และจับกุมตัวสมาชิกรัฐบาล โดยทางคณะมนตรีฯได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวคนที่ถูกจับไปและแสดงการสนับสนุนบทบาทและความพยายามของอาเซียน รวมทั้งการที่อาเซียนพร้อมสนับสนุนเมียนมาร์แก้ไขปัญหาและออกแถลงการประธานอาเซียนเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ระบุเป้าหมายและหลักการของกฎบัตรอาเซียน เรียกร้องให้มีความอดกลั้นและแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสันติผ่านการสนทนาเชิงสร้างสรรค์และไกล่เกลี่ย

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้ค้ำประกันสิทธิมนุษยชนที่ปลอดภัยและไม่ถูกขัดขวาง พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า สถานการณ์ที่รุนแรงนี้จะส่งผลกระทบมากขึ้นต่อความท้าทายต่างๆในรัฐ Rakhine รวมทั้งการกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ยืนยันสนับสนุนประชาชนเมียนมาร์ ให้คำมั่นต่ออธิปไตย อิสระด้านการเมือง บูรณะภาพแห่งดินแดนและเอกภาพของเมียนมาร์

ส่วนเวียดนามได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแถลงการณ์ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องยุติการใช้ความรุนแรง นำเสถียรภาพกลับมาสู่เมียนมาร์เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เรียกร้องให้มีความอดกลั้น จัดการสนทนาเพื่อมุ่งสู่มาตรการแก้ไขที่สมเหตุสมผลที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายของเมียนมาร์ ความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชนเมียนมาร์ อำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการประชาธิปไตยและย้ำถึงความพยายามของอาเซียนในการผลักดันการสนทนาและแสวงหามาตรการแก้ไข อาเซียนพร้อมให้การช่วยเหลือเมียนมาร์ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีและสอดคล้องกับเป้าหมายและหลักการของกฎบัตรอาเซียน

ในขณะเดียวกันคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับฟังรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขององค์กรความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรปหรือ OSCE โดยเอกอัครราชทูต ฝ่ามหายแอง รองหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติได้ให้ความสำคัญต่อบทบาทขององค์กร OSCE ในการผลักดันการสนทนา การสร้างสรรค์ความไว้วางใจ การแก้ไขการปะทะและผลักดันการพัฒนาในยุโรป พร้อมทั้งเสนอให้ OSCE และสหประชาชาติกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือในด้านต่างๆให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.

ฝ่ามฮวน ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐ