เวียดนามและสหรัฐผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ
(VOVWORLD) -ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำพิเศษอาเซียน-สหรัฐ เยือนและปฏิบัติภารกิจในสหรัฐและสหประชาชาติ ณ กรุงวอชิงตัน เช้าวันที่ 12 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ประชุมกับชมรมสถานประกอบการสหรัฐ
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง |
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ย้ำว่า ภายหลัง 27 ปีที่ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐได้บรรลุผลงานที่สำคัญต่างๆ นับตั้งแต่ที่สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านเมื่อปี 2013 ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายได้พัฒนาเข้าสู่ส่วนลึกในทุกด้าน รวมทั้งการค้า ซึ่งเป็นเสาหลักและสถานประกอบการมีบทบาทที่สำคัญ มีประธานาธิบดีสหรัฐถึง 4 คนที่เดินทางมาเยือนเวียดนามซึ่งได้สร้างความประทับใจต่อประชาชนทั้งสองประเทศ สำหรับด้านเศรษฐกิจ สหรัฐเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับสองของเวียดนาม ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่อันดับ 9ของสหรัฐ ข้อตกลงการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐที่ได้ลงนามเมื่อปี 2000 ได้มีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ตอบคำถามของชมรมสถานประกอบการสหรัฐเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ด้านสาธารณสุข การป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ เป็นต้น สำหรับหลักการในการแก้ไขปัญหาต่างๆนี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ย้ำว่า
“นี่เป็นปัญหาระดับโลก ดังนั้น ต้องมีวิธีการเข้าถึงด้วยความสามัคคี การร่วมมือ เชิดชูลัทธิพหุภาคีเพื่อร่วมกันแก้ไข ระดมการเข้าร่วมของประชาชน ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นเป้าหมายและพลังขับเคลื่อน”
สำหรับความคิดริเริ่มในกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้เผยว่า
“ความคิดริเริ่มนี้ประกอบด้วยปัญหาที่สำคัญต่อเวียดนาม สหรัฐและประเทศต่างๆ ดังนั้น เวียดนามพร้อมร่วมกับสหรัฐและหุ้นส่วนต่างๆทำการวิเคราะห์เพื่อชี้แจงเนื้อหาของเสาหลักต่างๆในกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก เวียดนามสนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา ความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน”
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งยังเสนอให้สหรัฐให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม โดยเฉพาะการค้นหาอัฐิทหารที่สูญหาย แก้ไขผลเสียหายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน การชะล้างสารพิษและการเก็บกู้กับระเบิด.