ในวันเดียวกัน ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณของอิหร่าน อาลี คาเมไนได้ยืนยันว่า เตหะรานจะไม่ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์หากทุกฝ่ายที่เหลือของยุโรปสามารถค้ำประกันว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าจะมีขึ้นต่อไปหลังจากที่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงฉบับนี้ ในการกล่าวปราศรัยต่อรัฐบาลอิหร่านที่ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ นาย คาเมไนได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับความปรารถนาธำรงข้อตกลงฉบับนี้ของฝ่ายยุโรปและย้ำว่า หากไม่ได้รับการค้ำประกันจากบรรดาประเทศสมาชิก อิหร่านจะต้องรับมือกับภัยคุกคามคือ สมาชิกที่เหลืออาจถอนตัวออกจากข้อตกลงฉบับนี้เหมือนสหรัฐ สำนักข่าวอิหร่านได้อ้างคำยืนยันของรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน Amir Hatami ว่า จากศักยภาพด้านกลาโหมที่มี อิหร่านไม่ยอมถูกคุกคามจากมาตรการด้านทหาร

ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศอิรักได้แสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ “สภาวการณ์ที่อันตราย”จากการถอนตัวออกจากข้อตกลงเจซีพีโอเอของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยถือว่า นี่คือการตัดสินใจที่รีบร้อนเกินไปและประเมินว่า ข้อตกลงฉบับนี้ได้มีส่วนร่วมสร้างสันติภาพให้แก่ตะวันออกกลาง ส่วนโฆษกวังเครมลินได้เผยว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินได้แสดงความกังวลต่อการตัดสินใจถอนตัวออกจากเจซีพีโอเอของสหรัฐ

ส่วนผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษได้ยืนยันอีกครั้งถึงการธำรงคำมั่นที่ให้ไว้กับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและย้ำว่า ข้อตกลงฉบับนี้มีบทบาทสำคัญเป็นพิเศษต่อความมั่นคงร่วมของสามประเทศ.