นครโห่ยอาน (Hoi An) อยู่ในจังหวัดกว๋างนาม ภาคกลางเวียตนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ติดทะเล ประกอบกับมีแม่น้ำ    ทูโบ่นไหลผ่าน ดังนั้นโห่ยอานจึงเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญของเวียตนามมาตั้งแต่โบราณกาล ความเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างชาติทำให้โห่ยอานคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ นอกจากคนเวียตนามแล้ว ยังมีชาวจีน ชาวญี่ปุ่น และชาวยุโรปเขามาตั้งหลักปักฐานและเปิดห้างร้านเพื่อทำการค้าขาย  ชาวญี่ปุ่นและชาวจีนมาตั้งชุมชนในโห่ยอาน แบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจนโดยมีคลองคั้นและมีสะพานเชื่อม สะพานนี้ปัจจุบันเรียกว่าสะพานญี่ปุ่นสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2136 สะพานแห่งนี้คนเวียตนามจะเรียกว่า  จั่วเกิ่ว (chua cau) หรือสะพานศาลเจ้า เพราะมีศาลเจ้าตั้งอยู่ภายใน ที่ปลายของสะพานทั้งสองด้านมีประติมากรรมรูปลิงและสุนัข สันนิษฐานว่าอาจหมายถึงเริ่มสร้างในปีวอกและแล้วเสร็จในปีจอ ตรงกลางสะพานจะมีแท่นบูชาขนาดเล็กสร้างไว้ ประดิษฐานรูปเคารพเทพเจิ่นหวู ซึ่งเป็นเทพประจำทิศเหนือ  มูลเหตุของการประดิษฐานรูปเคารพเทพเจ้า เจิ่นหวูเพื่อปราบสัตว์ประหลาดที่มีขนาดมหึมา หัวอยู่ที่อินเดีย ลำตัวอยู่ที่โห่ยอาน หางอยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อสัตว์ตัวนี้ขยับตัวจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ดังนั้นการสร้างสะพานแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเทพเจิ่นหวู จึงเป็นการสะกดสัตว์ประหลาดไม่ให้ขยับตัว 

ชาวตะวันตกที่เข้ามาค้าขายในโห่ยอาน ได้แก่ชาวฮอลแลนด์ โปรตุเกส ฝรั่งเศส ชาวยุโรปเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นพ่อค้า อีกส่วนหนึ่งคือหมอสอนศาสนา ซึ่งมีบทบาทเผยแพร่ศาสนาและคิดค้นประดิษฐ์อักษรภาษาเวียตนามที่ใช้กันแพร่ หลายในปัจจุบัน  ในปี พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนโห่ยอานให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นเมืองท่าโบราณที่มีการผสมผสานศิลปะของท้องถิ่นและต่างชาติ ไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์  โบราณสถานที่สวยงามอีกแห่งของโห่ยอานคือ ศาลเจ้า ฟุกเกี๋ยน เป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่สมุทร ซึ่งเจ้าแม่จะคอยปกปัก คุ้มครองผู้มีอาชีพประมง และเดินเรือให้แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง ศาลได้รับการบูรณะดูแลเป็นอย่างดี จึงใหญ่โตสวยงาม มีสีสรรสดใส เป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของโห่ยอาน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประจำ  


ความประทับใจที่ได้จากการมาเยือนโห่ยอานคือ ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต เห็นวิถิชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน สัมผัสกับบ้านเรือนเก่าๆ ที่หาชมยากในปัจจุบันและหลงไหลไปกับความงามยามค่ำคืนของตัวเมืองที่ประดับ โคมไฟสวยงาม  ทุกวันนี้ผู้มาเยือนโห่ยอาน มักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม เช่นภาพวาด โคมไฟรูปทรงต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำมีอินเตอร์เนตคาเฟ่ และร้านอาหาร ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะฝรั่งตะวันตกที่มีเป็นจำนวนมากมาย