คุณครูชาวอินโดนีเซียกับความหลงรักกรุงฮานอย
Nguyen Ha -  
(VOVWORLD) - ด้วยบทกลอนที่เขียนเกี่ยวกับกรุงฮานอยราว 50 ผลงาน ซึ่งเป็นการบ่งบอกความรู้สึกและความหลงรักของนาย Eko Widianto คุณครูชาวอินโดนีเซียต่อฮานอย ทำให้การเดินทางกลับมาฮานอยอีกครั้งในรอบ 5 ปี ชวนให้เขาหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยความซาบซึ้งใจอันล้นเหลือ
นาย Eko Widianto ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของวีโอวี |
“กรุงฮานอยเป็นเมืองที่พิเศษมากๆ สำหรับผม ผมรักที่นี่เหมือนบ้านเกิดแห่งที่สองของตัวเอง ที่นี่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี ด้วยความทันสมัยและความเจริญ แต่ยังคงความเรียบง่ายและเก่าแก่ของวัฒนธรรมดั้งเดิมหลายประการ ซึ่งทำให้ผมยิ่งหลงรักเมืองแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ”
นาย Eko Widianto ที่กำลังนั่งจิบกาแฟร้อน ๆ ที่ร้านการแฟแห่งหนึ่งในย่านถนนโบราณ 36 สาย ได้เล่าถึงเรื่องราวที่ตนเองเดินทางมากรุงฮานอยครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 2018 ตอนเขาอายุ 27 ปี ด้วยความตื่นเต้นครั้งใหญ่ โดยเขาเองได้รับมอบหน้าที่เผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมอินโดนีเซียให้แก่ประชาชนชาวฮานอยในฐานะเป็นคุณครูสอนภาษาอินโดนีเซียให้แก่ชาวต่างชาติหรือ BIPA ซึ่งในตลอด 3 เดือนของการปฏิบัติงาน นาย Eko Widianto ได้พยายามศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ในทุกแง่มุม ด้วยการนั่งรถเมล์ไปทำงาน ไปซื้อของที่ตลาดสด นั่งดื่มน้ำชามะนาวกับเพื่อนๆ บนฟุตบาท เดินรอบทะเลสาบหว่านเกี๊ยม และไปเยือนเขตโบราณสถานต่าง ๆ นอกจากนี้ เขายังใช้เวลาเรียนภาษาเวียดนามเพื่อสามารถพูดุยกับชาวบ้านได้มากขึ้น โดยเฉพาะเวลาต้องออกไปข้างนอกและใช้ชีวิตประจำวัน
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นาย Eko ได้พาภรรยามาเที่ยวเวียดนามเป็นเวลา 4 วัน โดยเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่เขาเคยไป พบปะกับเพื่อนๆ และศิษย์เก่าหลายคน รวมถึงการเที่ยวชมย่านถนนโบราณ 36 สายเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของชาวบ้าน พร้อมค้นหาความรู้สึกใหม่ๆ ให้แก่ตนเอง
“ผมยังคงคุ้นเคยกับหลาย ๆ อย่าง ทั้งถนนหนทาง อาหาร ความเป็นกันเองของคนที่นี่ รวมถึงวัฒนธรรมที่เป็นอักลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงรักกรุงฮานอย ผมรู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนๆ และลูกศิษย์หลายคนอยู่ที่นี่ ช่วยให้ผมสามารถค้นคว้าหลายสิ่งหลายอย่างและปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตที่นี่ ซึ่งผมก็ถ่ายทอดความรู้สึกและประสบการณ์เหล่านั้นผ่านผลงานของผม”
นาย Eko Widianto และภริยาในโอกาสมาเยือนกรุงฮานอยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 |
นอกจากเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวรรณคดีและภาษาอินโดนีเซียที่มหาวิทยาลัย UIN Walisongo ในเมืองเซมารัง นาย Eko Widianto ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นนักกวีหนุ่มที่มีความกระตือรือร้นภายในประเทศด้วยผลงานบทกวี 3 ชุด รวมบทกวีหลายร้อยบท ซึ่งในนั้น มีราว 50 บทที่เขียนเกี่ยวกับฮานอย ถ้าเป็นชาวเวียดนามที่หลงรักกรุงฮานอยผ่านงานวรรณกรรมและศิลปะก็อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สำหรับชาวต่างชาติอย่าง Eko ที่มีผลงานเกี่ยวกับฮานอยจำนวนมาก เขาเองต้องมี “ความหลงไหล” และความรักที่สุดพิเศษต่อเมืองแห่งนี้ ถึงสามารถเขียนออกมาได้อย่างจริงใจและชัดเจนขนาดนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสอากาศหนาวและภาพบรรยากาศของกรุงฮานอยในช่วงฤดูเปลี่ยนผ่านพร้อมฝนตกปรอยๆ รวมถึงชีวิตประจำวันของชาวฮานอยและความเคารพรักประธานโฮจิมินห์
(เสียง)
ในห้องส่งของส่วนกระจายเสียงต่างประเทศ สถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนาม นาย Eko Widianto กำลังอ่านบทกวี “Selamat datang musim dingin” หรือ “สวัสดีหน้าหนาว” ให้แก่บรรดาผู้ประกาศข่าวและท่านผู้ฟัง ได้ฟังในรายการตอบจดหมายผู้ฟัง ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของเขาเองที่มีต่อฮานอย เป็นความตื่นตันใจของนักเดินทางต่อทิวทัศน์และผู้คนเมื่อฤดูหนาวเวียนมา เขารักทุกอย่างที่เกี่ยวกับกรุงฮานอย สำหรับบทกวี “Selamat datang musim dingin” ได้ตีพิมพ์ในคอลเลกชันบทกวี “#Kultum Asmara” หรือ เรื่องราวแห่งความรัก ถือเป็นของขวัญที่เขาตั้งใจมอบให้บรรณาธิการรายการก่อนเดินทางกับประเทศ นาย Eko Widianto เผยว่า
“ชาวอินโดนีเซียจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศเวียดนามและกรุงฮานอยมากขึ้นเมื่อได้อ่านบทกวีของผม ส่วนเพื่อนๆ ชาวเวียดนาม จะรู้สึกถึงความเป็นเวียดนามที่แตกต่างออกไปผ่านสายตาของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนชาวเวียดนามของผมจะมีอีกวิธีหนึ่งในการศึกษาเรียนรู้ภาษาอินโดนีเซียผ่านบทกวีเกี่ยวกับเวียดนาม การเป็นคุณครู BIPA นั้นได้เปิดโอกาสให้ผมมาใช้ชีวิตและมีความผูกพันกับฮานอย ผมรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งเหล่านี้”
ทั้งนี้ การเผยแพร่คอลเลกชันบทกวีเกี่ยวกับฮานอยและเวียดนาม พร้อมการมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่องเพื่อได้กลับมาเวียดนามสอนภาษาอินโดนีเซีย เป็นสองสิ่งที่นาย Eko Widianto มุ่งมั่นที่จะแปรเป้าหมายให้กลายเป็นความจริงในอนาคตอันใกล้นี้ สำหรับตัวเขา กรุงฮานอยเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในชีวิตโดยถือเป็นบ้านเกิดแห่งที่สอง ซึ่งก่อนที่กล่าวคำอำลาฮานอยในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเหล่ศิษย์เก่าของตน นาย Eko Widianto ก็ได้ร้องเพลงภาษาเวียดนามที่เพื่อนๆ ได้สอนให้เขาด้วยความซาบซึ้งใจ เมื่อครั้งที่เขาได้เดินเที่ยวในกรุงฮานอยที่สวยงามแห่งนี้
Nguyen Ha