(VOVworld) – เมื่อเทียบกับร้านอาหารต่างชาติในกรุงฮานอย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ไทย ฝรั่งหรือญี่ปุ่น ร้านอาหารลาวถือว่า หายากกว่าเพราะมีไม่มากแต่บรรดานักศึกษาลาวที่กำลังศึกษาในกรุงฮานอยยังคงพูดกันปากต่อปากเกี่ยวกับร้านอาหารเล็กๆที่มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมของลาวซึ่งนอกจากจะได้ลิ้มลองอาหารลาวแล้วที่นี่ยังเป็นที่พบปะสังสรรค์ของบรรดานักศึกษาลาวและชาวเวียดนามที่รักวัฒนธรรมลาวอีกด้วย

ร้านเล็กๆที่ตั้งอยู่บนถนนหวูหิวซึ่งเป็นถนนสายเล็กๆที่เงียบสงบ  เขตแทงซวน หลังโรงเรียนการเมืองรัฐศาสตร์เขต๑ที่มีนักศึกษาลาวกว่า๑๐๐คนกำลังศึกษา  แต่ในช่วงวันปลายสัปดาห์ ร้านนี้จะมีลูกค้ามาอุดหนุนจำนวนมาก ป้ายร้านมีรูปสาวลาวกำลังยกมือไหว้เกล้าผมมวยสูง หน้าตายิ้มแย้มเชิญชวนลูกค้าเข้าร้าน ข้างๆก็มีคำว่า“สบายดี” ป้ายร้านไม่มีอะไรโดดเด่น ประตูเข้าร้านก็เล็กซึ่งถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำก็ยากที่จะคิดว่า นี่คือร้านอาหารที่ภายในร้านกลับมีลูกค้ามาสังสรรค์และลิ้มลองอาหารอย่างคึกคัก   เนื่องจากมีพื้น๘๐ตารางเมตรและมีการตกแต่งเครื่องใช้ไม้สอยจำนวนมาก ดังนั้น ภายในร้านจึงวางได้ไม่ถึงโตะ มุมขวาของร้านเป็นเวทีแสดงเล็กๆที่มีแสงไฟระยิบระยับ ลำโพงใหญ่และทีวีขนาดใหญ่ บนผนังแขวนปฏิทินที่มีรูปสาวลาวที่สวยน่ารักและเครื่องดนตรีพื้นเมืองเวียดนาม เช่น ซออู้ ซึ่ง พิณสายเดียวและกีตาร์ ข้างเวทีแสดงคือตู้โชว์รูปสวยๆของเจ้าของร้านที่มีทั้งรูปถ่ายกับท่านสุนทร ไซยจัก สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตเอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามและของตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์จากลาว เช่น ช้าง ถาดและภาพเจดีย์ธาตุหลวงที่ทำจากเงิน  คุณเจิ่นแทงท๋าว เจ้าของร้านสบายดีเรียนจบมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวเมื่อปี๒๐๐๐ กล่าวว่า“ดิฉันเปิดร้านนี้มา๔ ๕ปีแล้วซึ่งก็มีช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี การทำมาหากินก็ลำบากแต่จนถึงปัจจุบัน ร้านมีลูกค้าประจำและกิจการดีขึ้น หลังจากเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ดิฉันจะลงทุนซ่อมแซมและตกแต่งร้านให้สวยงามยิ่งขึ้นเพราะปัจจุบันร้านเล็กมาก ที่นั่งไม่พอโดยเฉพาะ ในวันสุดสัปดาห์ก็มีลูกค้าล้นร้าน”

โดยที่เข้าใจรสนิยมของชาวลาวที่ชอบร้องรำทำเพลง คุณท๋าวจึงได้ทำร้านอาหารพร้อมคาราโอเกะ ลูกค้าที่มาจะได้กิน ดื่ม และร้องเพลงตามใจชอบ ลูกค้าชอบร้องเพลงลาวและไทยซึ่งทำให้บรรยากาศที่ร้านมีความสนุกสนานมาก โดยเฉพาะ ในปลายสัปดาห์ ร้านแห่งนี้มีอาหารที่มีชื่อเสียงของลาวเกือบทุกอย่าง ทั้งลาบ ยำมะละกอ ปลานึ่งมะนาว แกงส้มปลา เป็นต้น คุณกิต จากแขวงอุดมชัย นักศึกษาปีที่๒ของโรงเรียนการเมืองรัฐศาสตร์เขต๑ กล่าวว่า“ผมมาที่นี่ สัปดาห์ละ๒ถึง๓ครั้ง ผมชอบลาบที่สุด วันนี้ มีนักศึกษามาใหม่ พวกเราจึงจัดงานต้อนรับนักศึกษาใหม่ ที่ร้าน” ส่วนสำหรับคุณสมบัติ สีหาลาตที่มาเรียนต่อในเวียดนามได้มาร้านนี้เป็นครั้งแรกเผยว่า จากการแนะนำของเพื่อนๆ เขาจึงมาร้านเพื่อลองดูว่า เบียร์และอาหารลาวที่ฮานอยนั้นเป็นอย่างไรบ้าง“อาหารลาวที่นี่ต่างกับต้นตำหรับที่ประเทศลาวนิดหน่อย อาหารที่ลาวรสชาดเข้มและเผ็ดกว่า เนื่องจากกุ๊กเวียดนามปรุงอาหารดังนั้น รสชาติจึงมีการปรับเปลี่ยนให้มีสไตล์เวียดนามเพื่อรสชาดถูกปากคนส่วนใหญ่มากขึ้น ผมมาที่ที่เพื่อพบปะกับเพื่อนมิตรเพื่อลดความคิดถึงบ้าน”

ร้านแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดนัดพบของนักศึกษาลาวที่กำลังศึกษาในเวียดนามเท่านั้นหากยังเป็นจุดนัดพบของนักศึกษาเวียดนามที่เคยศึกษาในลาวอีกด้วย คุณดว่านวันมิงเรียนจบมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวเมื่อปี๒๐๐๖ กล่าวว่า“ผมกับเพื่อนๆก็ชอบมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งความทรงจำที่ดีงามในช่วงที่เรียนอยู่ในประเทศลาว ที่นี่มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาวหลายอย่าง มีทั้งเบียร์ลาวมีนักศึกษาลาว มีการตบแต่งสไตล์ลาวด้วย”  บรรดาลูกค้ามีความประสงค์ว่า ความปรารถนาของเจ้าของร้านในการขยายร้านให้กว้างขึ้นจะกลายเป็นความจริงเพื่อให้ร้านนี้จะกลายเป็นที่รู้จักของผู้ที่ชอบอาหารและรักวัฒนธรรมลาวซึ่งไม่เพียงแต่เป็นนักศึกษาลาวที่ศึกษาในเวียดนามและนักศึกษาเวียดนามที่เคยศึกษาในประเทศลาวเท่านั้นหากรวมทั้งผู้ที่ให้ความสนใจกับประเทศลาวสามารถมาร้านนี้ได้เพื่อร่วมค้นคว้าวัฒนธรรมลาวในกรุงฮานอย./.