คุณ พุมพิทัด อุประเสิด เข้าร่วมรายการศึกษาค้นคว้าเมนูอาหารเวียดนามของสถานีโทรทัศน์เวียดนาม

เมื่อปี 2013  คุณ พุมพิทัด อุประเสิด จากแขวงบ่อแก้ว ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลเวียดนามและลาว จึงตัดสินใจมาเรียนที่ประเทศเวียดนาม ถึงแม้ในขณะนั้น เวียดนามไม่ใช่ประเทศที่เขาอยากไปเรียนแต่จากการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีของรัฐบาลเวียดนามและไมตรีจิตมิตรภาพของประชาชนเวียดนามได้ทำให้เขาค่อยๆชื่นชอบประเทศเวียดนาม            “เมื่ออาศัยอยู่ในประเทศเวียดนาม ผมรู้สึกภูมิใจที่เป็นคนลาว ถ้าหากไปไหนมาไหนแล้วบอกว่า ตนเป็นคนลาว ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เพราะว่าคนเวียดนามมักจะถือคนลาวเป็นพี่เป็นน้อง จึงช่วยให้ผมรู้สึกอุ่นใจมาก เหมือนว่ากำลังอยู่ที่บ้านเกิด ไม่ใช่กำลังเรียนในต่างประเทศ นอกจากนี้ นักศึกษาลาวก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษจากทางเวียดนาม เช่น มหาวิทยาลัยบางแห่งมีหอพักเฉพาะสำหรับคนลาวพร้อมอุปกรณ์การเรียนครบครัน”

เป็นล่ามในกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ระหว่างเวียดนามกับลาว

ไมตรีจิตมิตรภาพและอัธยาศัยที่ดีของคนฮานอยได้ช่วยให้คุณ พุมพิทัด อุประเสิด รู้สึกอุ่นใจและเริ่มสนใจศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประเทศและคนเวียดนาม และเพื่อตอบสนองความปรารถนาอันแรงกล้านี้ หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัย คุณ พุมพิทัด อุประเสิด ก็ได้ไปสมัครเป็นครูสอนตามศูนย์การศึกษาต่างๆเพื่อหาเงินจ่ายค่าเรียนปริญญาโท และต่อมาก็ได้เป็นอาจารย์สอนภาษาลาวในมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยและค่อยๆเผยแพร่ความรักเวียดนามให้แก่นักเรียนนักศึกษาคนลาว อาจารย์ เลวันขาย เพื่อนร่วมงานของคุณ พุมพิทัด อุประเสิด ในมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศให้ข้อสังเกตว่า            “นอกจากสามารถพูดภาษาเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่วและมีทักษะการสอนภาษาลาวที่ดีแล้ว อาจารย์ พุมพิทัด อุประเสิด ยังมีความรู้อย่างกว้างลึกเกี่ยวกับประเทศ วัฒนธรรมและคนเวียดนาม ซึ่งเราสามารถเห็นเรื่องนี้ผ่านการดำเนินวิถีชีวิตและวิธีการสื่อสารของเขาต่อเพื่อนๆและนักศึกษา คุณ พิมพิทัดมีความคล่องตัวมาก ซึ่งชอบเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น เป็นพิธีกรหรือเข้าร่วมรายการศึกษาค้นคว้าเมนูอาหารเวียดนามของสถานีโทรทัศน์เวียดนาม”

เข้าร่วมกิจกรรมการกุศล

ดั่งข้อสังเกตของอาจารย์ เลวันขาย ในเวลาที่ผ่านมา คุณ พุมพิทัด อุประเสิด ได้หากิจกรรมนอกหลักสูตร เป็นล่ามอาสา สนับสนุนโครงการร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาวและเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครต่างๆ เพื่อจะมีโอกาสไปศึกษาค้นคว้าสถานที่ต่างๆและมีความเข้าใจเกี่ยวกับคนและวัฒนธรรมเวียดนามมากขึ้น            “ถึงแม้ผมไม่ได้ไปทั้งหมดกว่า 60 จังหวัดของเวียดนามแต่ผมมีโอกาสไปทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนามแล้ว ในอนาคต ผมจะพยายามไปเที่ยวสถานที่ไม่เคยไปและพบปะกับคนที่ไม่เคยพบ ชอบจริงๆครับ อยากศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคนและประเทศเวียดนามมาก เพราะว่า แต่ละท้องถิ่นจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เช่น ในภาคเหนือ ผมสามารถพบปะกับผู้คนที่อาศัยในเขตชายแดนติดกับประเทศลาวหรือชนเผ่าไท ในขณะที่ไปเที่ยวตลาดเดียนเบียนและเซินลา ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเห็นว่า ประเทศลาวและประเทศเวียดนามมีความคล้ายคลึงกันมาก ส่วนตอนไปเที่ยวภาคกลาง ผมชอบฟังเสียงหวานของสตรีชาวเว้ เที่ยวนครโฮจิมินห์ก็เห็นว่า เป็นนครที่มีความแออัดคึกคักและสถานที่บันเทิงมากกว่าในกรุงฮานอย”

เยือนโบราณสถานทางประวัติศาสตร์เตินจ่าวกับเพื่อนๆ

คุณ พุมพิทัด อุประเสิด บอกว่า สิ่งที่มีความหมายที่สุดสำหรับเขาคือ นอกจากได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาหารประเพณี วัฒนธรรมและคนเวียดนามแล้ว ก็ยังมีโอกาสเยี่ยมชมโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ต่างๆของลาวในเวียดนามอีกด้วย            “ โดยเฉพาะที่จังหวัดเตวียนกวาง ผมมีโอกาสไปเยือนโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของลาวในเขตเตินจ่าว เมืองเตวียนกวาง เมื่อมาเยือนที่นี่ ผมก็ทราบได้ว่า นี่คือสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญๆในประวัติศาสตร์ เคยมีนักปฏิวัติลาวทำงานที่นี่และเห็นความสามัคคีพิเศษระหว่างเวียดนามกับลาว ซึ่งมีความหมายเป็นอย่างมากสำหรับคนรุ่นใหม่ดั่งผม”

คุณ พุมพิทัด อุประเสิด กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่อาศัยอยู่ในประเทศเวียดนามเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและมีความทรงจำมากมายแต่เพื่อสามารถศึกษาค้นคว้าเอกลักษณ์วัฒนธรรม คนและประเทศเวียดนามได้อย่างสมบูรณ์ จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้ ดังนั้น เขาได้ตัดสินใจอาศัยอยู่ในประเทศเวียดนามต่อเพื่อเรียนปริญญาเอก ศึกษาค้นคว้าและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประเทศเวียดนามต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติต่อไป โดยเฉพาะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเยาวชนเวียดนามกับเยาวชนลาวผ่านการผลักดันการสอนภาษาลาว การพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ.