เวียดนาม – หุ้นส่วนเศรษฐกิจการค้าชั้นนำของกัมพูชา
(VOVWORLD) - ปี 2019 ถือเป็นนิมิตหมายของความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านตัวเลข 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2020 ของรัฐบาลทั้งสองประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือ นอกจากกลุ่มบริษัทรายใหญ่ๆ ยังมีสถานประกอบการภาคเอกชนของเวียดนามเข้าไปลงทุนและขยายการประกอบธุรกิจในกัมพูชา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีในการแลกเปลี่ยนการค้าทวิภาคีในเวลาข้างหน้า
เวียดนามและกัมพูชาเป็นสองประเทศเพื่อนบ้าน ในเวลาที่ผ่านมา เขตตะวันออกภาคใต้ของกัมพูชาและเขตตะวันตกภาคใต้ของเวียดนามได้ขยายความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของเขตเศรษฐกิจหลักในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง อำนวยความสะดวกให้สินค้าและสถานประกอบการของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและนครโฮจิมินห์เข้าถึงตลาดกัมพูชาและบรรดาประเทศอาเซียน
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปี 2019 ข้อตกลงด้านการคมนาคมขนส่งทางบกระหว่างเวียดนามกับกัมพูชามีผลบังคับใช้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องระบุข้อกำหนดเพิ่มเติมที่อนุญาตให้ยานพาหนะของอีกฝ่ายเข้ามาในประเทศผ่านจุดผ่านแดนได้ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างมาก นาย ฟานแทงต๊วน เจ้าของโรงงานผลิตน้ำแข็งเตินเบียน ตำบลเตินโหะเกอ อำเภอเตินห่ง จังหวัดด่งทาปแสดงความคิดเห็นว่า “การเดินทางที่สะดวกช่วยให้การขนส่งข้ามชาติสะดวกมากขึ้น สินค้าที่เราส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาไม่ต้องเปลี่ยนรถที่จุดผ่านแดนอีก ซึ่งเมื่อก่อน เราต้องเสียเวลาและต้องการแรงงานจำนวนมากในการขนถ่าย”
ในภาพรวม ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศในปี 2019 ได้รับการขยายอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการลงทุนกว่า 200 โครงการ ยอดเงินทุนจุดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งใน 5 เศรษฐกิจที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชามากที่สุด
นาย เหงียนเฟืองลาม ผู้อำนวยการหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามสาขาจังหวัดเกิ่นเทอหรือวีซีซีไอเกิ่นเทอเผยว่า เวียดนามมีศักยภาพสูงในการพัฒนา จึงควรขยายความร่วมมือกับประเทศอื่นๆในอาเซียน โดยในตอนแรก สถานประกอบการรายใหญ่ของเวียดนามในด้านต่างๆ เช่น ธนาคารการเงิน ยางพารา โทรคมนาคมและการแปรรูปได้ขยายการลงทุนไปยังตลาดกัมพูชา ต่อจากนั้นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของทั้งสองประเทศก็ขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงของเวียดนาม ซึ่งเป็นเขตการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามและมีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา มีประชากรและสภาพธรรมชาติที่คล้ายคลึงกัมพูชา ทำให้มีความได้เปรียบต่างๆในการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ นาย เหงียนเฟืองลามให้ข้อสังเกตว่า “ความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการเวียดนามกับสถานประกอบการกัมพูชาจะเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือใหม่ๆระหว่างสองประเทศ เปิดกระแสใหม่ๆ วีซีซีไอจะพยายามปฏิบัติหน้าที่สำคัญเหล่านี้เพื่อขยายความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับบรรดาประเทศอาเซียน โดยเฉพาะกัมพูชา เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเวียดนามที่มีเงื่อนไขที่สะดวกมากสำหรับความร่วมมือดังกล่าว”
ส่วนนาย หวูกวางมิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำกัมพูชาเผยว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเวียดนามเข้ามาลงทุนในด้านต่างๆในประเทศกัมพูชา เช่น การเกษตร การท่องเที่ยว การขนส่งและโลจิสติกส์ การก่อสร้าง วัสดุการก่อสร้าง การศึกษาและฝึกอบรม เป็นต้น “ปัจจุบันนี้ การลงทุนในประเทศกัมพูชาสะดวกมากขึ้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีกระแสการลงทุนในประเทศกัมพูชากระแสแรก และปัจจุบันนี้ เป็นกระแสการลงทุนระยะที่ 2 โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานและอาหาร สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กำชับว่า ต้องขยายความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศเพื่อบ้าน โดยเฉพาะทำการวิจัยและเตรียมความพร้อมให้แก่การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับสถานประกอบการเวียดนาม”
ปัจจุบัน สถานประกอบการของทั้งสองประเทศมีโอกาสความร่วมมือมากมาย ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในปี 2020 และปีต่อๆไป รวมทั้งช่วยส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของเวียดนามและกัมพูชาและสนับสนุนกันในการพัฒนา.