การแสดงมวยไทยในงาน Amazing Thailand

งานเทศกาล “Amazing Thailand” ที่มีขึ้นเมื่อเร็วๆนี้คือกิจกรรมเปิดการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ TAT ณ จัตุรัส ดงกิงเหงียถุกในบริเวณทะเลสาบคืนดาบในกรุงฮานอย ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยนอกจากการแนะนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมของไทย เช่นอาหารและวัฒนธรรม ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่นกรุงเทพฯและพัทยา ในครั้งนี้ ทีเอทีได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเวียดนามยังไม่ค่อยรู้จัก เช่นจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ดอกกุหลาบในภาคเหนือของไทย” นาย ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เผยว่า “เราไม่เคยจัดงานแบบนี้มาก่อน นี่คือครั้งแรกที่เราจัดงาน Amazing Thailand ในกรุงฮานอย ภาคเหนือเวียดนาม และหวังว่า จะมีคนเวียดนามในตอนภาคเหนือ รวมทั้งที่กรุงฮานอยรู้จักประเทศไทยมากขึ้นและเดินทางไปประเทศไทยมากขึ้น นี่ก็คือสาเหตุที่เรามาจัดงาน Amazing Thailand  ในกรุงฮานอย”

ตามรายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือทีเอที ทุกปี ไทยใช้งบประมาณ 20-30 ล้านบาทหรือคิดเป็น 6 แสนถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเวียดนาม ในปี 2019 ไทยจะเน้นเจาะตลาดวัยรุ่น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 33 ของประชากรเวียดนาม และกำลังมีการใช้จ่ายที่นับวันเพิ่มสูงขึ้น ไทยพยายามมุ่งสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนามคนที่ 1.1 ล้านในปี 2019 ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ ไทยได้เลือกนาย กวางบ๋าว วิทยากรที่เคยได้รับรางวัลที่ 2 ในการประกวดวิทยากรยอดเยี่ยมแอ๊นหว่างปี 2016 เป็นทูตการท่องเที่ยวประเทศไทยในเวียดนามปี 2019  ทีเอทีได้ลงทุนประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ คน อาหารและธรรมชาติของไทยโดยเชิญนาย กวางบ๋าว ไปเที่ยวกรุงเทพฯ หัวหินและเขาใหญ่ในโคงการ “นี่คือประเทศไทย” หลังจากเดินทางกลับประเทศเวียดนาม นาย กวางบ๋าว เผยว่า “ผมได้ไปเที่ยวประเทศไทยเป็นเวลา 8 วันโดยไปเที่ยวกรุงเทพฯ ซึ่งแม้จะรู้จักกันดี แต่ยังมีหลายสิ่งที่แปลกใหม่ นอกจากนั้นผมยังไปเที่ยวหัวหินซึ่งเมื่อก่อนเป็นสถานที่ตากอากาศของพระบรมวงศานุวงศ์ และเขาใหญ่ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม เย็นสบายและเงียบสงบ จะมีคลิปวิดีโอ 3-4 คลิปที่แนะนำเกี่ยวกับกรุงเทพฯ หัวหินและเขาใหญ่ ผมหวังว่า ในฐานะทูตการท่องเที่ยวของไทยในประเทศเวียดนาม เรื่องราวและการไปเที่ยวเมืองไทยของผมจะช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเทศไทย ไทยคือสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในแพ็คเกจทัวร์”

นาย ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (คนที่ 3 ตั้งแต่ด้านขวา)

ในหลายปีมานี้  ไทยได้ผลักดันการประสานงานกับเวียดนามเพื่อเปิดเส้นทางบินตรงราคาถูกมายังจังหวัดและนครหลายแห่งของเวียดนาม เช่นกว๋างบิ่งห์ นครดานังและฟู้ก๊วก เป็นต้น จากความได้เปรียบที่มีเที่ยวบินตรงราคาถูก และใช้เวลาบินไม่ถึง 2 ชั่วโมงทั้งสายการบิน Vietjet Air Air Asia และThai Airways เป็นต้น ตลอดจนมีวัฒนาธรรมคล้ายคลึงกับเวียดนาม ทำให้ไทยนับวันกลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจเพื่อให้บริษัทนำเที่ยวเวียดนามขยายและพัฒนาตลาด นาย ตะหุยเชี๊ยน ผู้อำนวยการบริษัทการท่องเทียว SunVina Travel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการทัวร์ให้แก่นักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยเผยว่า “เมืองไทยไม่เพียงแต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่นกรุงเทพฯ และพัทยาเท่านั้น หากยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่นเชียงใหม่ซึ่งกำลังดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนามเป็นจำนวนมาก ด้วยเส้นทางบินตรงและบริษัทนำเที่ยวที่เปิดทัวร์ดังกล่าวมากขึ้น จากศักยภาพการท่องเที่ยวของไทย ผมคิดว่า ยังมีโอกาสมากมายและจะมีการขยายตัวในเวลาที่จะถึง ปี 2018 บริษัท SunVina Travel เป็นหนึ่งในบริษัทที่จัดทัวร์ไปเที่ยวเมืองไทย โดยมีนักท่องเที่ยวเวียดนามซื้อทัวร์กรุงเทพฯ-พัทยาเกือบ 2 พัน 5 ร้อยคน”

นาย กวางบ๋าว ทูตด้านการท่องเที่ยวของไทยในเวียดนามปี 2019

ในปี 2019 ทีเอทีสาขานครโฮจิมินห์จะปฏิบัติโครงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในจังหวัดและนครต่างๆของเวียดนาม เช่นกรุงฮานอย นครไฮฟอง จังหวัดกว๋างนิงห์และจังหวัดใกล้เคียง เป็นต้น จัดการแนะนำเชิงวิชาการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองไทยให้แก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากไปเที่ยวเมืองไทยด้วยตนเอง แนะนำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆโดยเฉพาะทะเล โดยถ้าใครอยากชอปปิ้งก็สามารถไปเที่ยวกรุงเทพฯ หัวหินและเขาใหญ่ ส่วนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายจะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวชมทัศนียภาพธรรมชาติและลองทานอาหารพื้นเมือง นาย ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เผยว่า “เราให้ความสำคัญต่อตลาดเวียดนามเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่สามารถเดินทางใกล้ และประเทศเวียดนามมีเศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว ดังนั้นเราอยากให้ชาวเวียดนามเดินทางไปประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นในเวลาที่ผ่านมา ททท.ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทบวงการท่องเที่ยวเวียดนาม เราคิดว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันตลอดไป ผมคิดว่า ภายในซักสองปีจากนี้ขึ้นไป เราอาจจะเห็นนักท่องเที่ยวเวียดนามคนที่ 2 ล้านเดินทางไปเที่ยวประเทศไทย”

เทศกาล Amazing Thailand ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากชาวฮานอย

นอกจากนั้น ในปี 2019 ทีเอทีจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทนำเที่ยวและสายการบินต่างๆเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนามให้ไปเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม 1.1 ล้านคนในปี 2019 พร้อมทั้งการผลักดันนักท่องเที่ยเวียดนามไปเที่ยวเมืองไทยก็ช่วย “สร้างผลประโยชน์ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทำให้ความสัมพันธ์ระดับประชาชนของทั้งสองประเทศมีความผูกพันใกล้ชิดมากขึ้น” ดั่งเช่นความเห็นของนาย ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนาม.