กรุงฮานอยพยายามอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่

(VOVWORLD) - หลังจากที่การร้องเพลงทำนองกาจู่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมที่ต้องอนุรักษ์อย่างเร่งด่วนจากองค์การยูเนสโก กรุงฮานอยได้มีมาตรการที่เข้มแข็งเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่อย่างยั่งยืน โดยนอกเหนือจากการสอนร้องเพลงทำนองกาจู่ให้แก่คนรุ่นใหม่ ทางการกรุงฮานอยก็กำลังผลักดันการแสดงร้องเพลงทำนองกาจู่เพื่อเพิ่มพลังชีวิตใหม่ให้แก่เพลงพื้นเมืองและให้ศิลปะแขนงนี้สามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น
กรุงฮานอยพยายามอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่ - ảnh 1การแสดงของสโมสรร้องเพลงทำนองกาจู่กรุงฮานอย (baomoi.com)

เวลา 19.00น.ของทุกวัน นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะนั่งรอชมการแสดงร้องเพลงทำนองกาจู่ที่หน้าบ้านเลขที่ 87ถนนหมาเมยท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูใบไม้ร่วงในกรุงฮานอย โดยเสียงร้องของนักร้องกาจู่ เสียงตีกลองและเครื่องเคาะจังหวะ ถือเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมการท่องเที่ยวในย่านถนนโบราณ ๓๖ สายของกรุงฮานอย ซึ่งช่วยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมของกรุงฮานอย

หลังจากได้รับการรับรองให้เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติจากยูเนสโกเมื่อเดือนตุลาคมปี 2009 การร้องเพลงทำนองกาจู่ได้กลายเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมลำดับยการที่ ๔ ของเวียดนามที่ได้รับการรับรอง ต่อจากดนตรีชาววังเว้ วัฒนธรรมการตีฆ้องเตยเงวียนและการร้องเพลงทำนองกวานเหาะบั๊กนิง ซึ่งเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูการร้องเพลงทำนองกาจู่อย่างยั่งยืน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรุงฮานอยกำลังจัดทำโครงการเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อให้การร้องเพลงทำนองกาจู่จากบัญชีมรดกที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน เช่น สนับสนุนเงินให้สโมสรการร้องเพลงทำนองกาจู่เข้าร่วมงานมหกรรมและการประกวดร้องเพลงพื้นเมืองต่างๆ สนับสนุนอุปกรณ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ศิลปินอาวุโสในการแสดงและการสอนร้องเพลงทำนองกาจู่ให้แก่คนรุ่นใหม่

ปัจจุบัน กรุงฮานอยมีศิลปินกาจู่ 29คนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินยอดเยี่ยม จากการจัดงานมหกรรมการร้องเพลงทำนองกาจู่กรุงฮานอย 3ครั้งได้ช่วยผลักดันการแสดงร้องเพลงกาจู่ในเขตชุมชน อีกทั้งเป็นจุดนัดพบของศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในด้านนี้ นักดนตรีดั่งแหว่งลวาน ซึ่งเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับการร้องเพลงทำนองกาจู่ได้เผยว่า ควรจัดงานมหกรรมและการประกวดร้องเพลงทำนองกาจู่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสให้ศิลปินและเยาวชนที่ชอบร้องเพลงทำนองกาจู่ได้พบปะสังสรรค์ เรียนรู้และทำการแสดง“การประกวดร้องเพลงทำนองกาจู่เป็นจุดนัดพบของศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของสโมสรร้องเพลงกาจู่กรุงฮานอย โดยมีนักร้องกาจู่บางคนสามารถร้องตามสไตล์ของศิลปินอาวุโสเพราะได้ฟังและฝึกร้องตามเทปบันทึกเสียงร้องของศิลปินอาวุโส รวมถึงศิลปินอาวุโสที่จากไปแล้ว เช่น ศิลปินอาวุโสเหงวียนถิจุ๊ก สิ่งที่สำคัญคือนักร้องกาจู่ที่เข้าร่วมการประกวดร้องเพลงกาจู่ครั้งก่อนๆกำลังสอนร้องเพลงทำนองกาจู่ให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีมาก”

การอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่กำลังเผชิญอุปสรรคและความท้าทายต่างๆเพราะกาจู่คือศิลปะพื้นบ้านชั้นสูง และศิลปินส่วนใหญ่ต่างมีอายุเยอะแล้ว แต่นักร้องกาจู่รุ่นใหม่ยังมีไม่มากในขณะที่ผู้ที่ชอบฟังและเรียนศิลปะแขนงนี้ก็มีไม่มาเช่นกัน ดังนั้น นอกเหนือจากการเปิดสอนและอบรมนักร้องกาจู่รุ่นใหม่ การผลักดันให้การร้องเพลงทำนองกาจู่ให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้นก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน อำเภอดงแองได้อนุมัติให้ระบุการร้องเพลงทำนองกาจู่ในกิจกรรมนอกหลักสูตรของโรงเรียนต่างๆที่ตำบลเลียนห่าที่มีการร้องเพลงทำนองกาจู่โหล๊เคที่ขึ้นชื่อ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีความหมายเพราะสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่อย่างยั่งยืน นางฝุ่งถิห่ง หัวหน้าสโมสรการร้องเพลงทำนองกาจู่ของศูนย์พัฒนาศิลปะและดนตรีเวียดนามได้เสนอว่า“ดิฉันขอเสนอให้ระบุการร้องเพลงทำนองกาจู่ในกิจกรรมนอกหลักสูตรของโรงเรียนต่างๆเพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงการร้องเพลงทำนองกาจู่มากขึ้น ดิฉันมีความประสงค์ว่า หน่วยงานทุกระดับควรผลักดันการแสดงร้องเพลงทำนองกาจู่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ศิลปะแขนงนี้สูญหาย”

กรุงฮานอยพยายามอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่ - ảnh 2ศิลปินฝุ่งถิห่งกำลังสอนเกี่ยวกับเครื่องเคาะจังหวะให้แก่ลูกศิษย์ (nhandan.com.vn)

เพื่อส่งเสริมให้มรดกการร้องเพลงทำนองกาจู่เข้าถึงประชาชนทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น นาง หวูถิถวี่ลิง จากสโมสรร้องเพลงทำนองกาจู่ฟู้ถิได้ให้ข้อสังเกตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางการปกครองท้องถิ่นควรผลักดันการประชาสัมพันธ์และระบุการแสดงร้องเพลงทำนองกาจู่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของกรุงฮานอย“พวกเราเป็นสมาชิกสโมสรร้องเพลงทำนองกาจู่จึงอยากมีเวทีแสดงมากขึ้นเพื่อสามารถร้องเพลงทำนองกาจู่ตามที่ได้เรียนมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้กาจู่สามารถคงอยู่เพราะการจัดงานมหกรรมการร้องเพลงทำนองกาจู่เป็นประจำทุกๆ 2ปีอาจไม่เกิดประสิทธิผลมากเท่าที่ควร”

ในการสัมมนาเพื่อแสวงหามาตรการอนุรักษ์การร้องเพลงทำนองกาจู่กรุงฮานอย บรรดานักวิชาการและศิลปินอาวุโสได้เผยว่า กรุงฮานอยคือหนึ่งในท้องถิ่นที่มีสโมสรการร้องเพลงทำนองกาจู่และศิลปินอาวุโสมากที่สุดในจำนวนทั้งหมด 14 จังหวัดและนครที่มีการร้องเพลงทำนองกาจู่ในปัจจุบัน ดังนั้น กรุงฮานอยควรเดินหน้าในการตรวจสอบและประเมินการร้องเพลงทำนองกาจู่ในท้องถิ่นเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การอนุรักษ์และพัฒนาการร้องเพลงทำนองกาจู่เพื่อสร้างก้าวกระโดดในการอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้อย่างยั่งยืน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด