บทละครอุปรากร “Facing Infinity” การผสานระหว่างการแสดงอุปรากรและการเต้นรำร่วมสมัย

(VOVWORLD) - การแสดงละครเรื่อง “Facing Infinity” ที่มีการผสานระหว่างดนตรี การเต้นรำร่วมสมัยและการแสดงต่วง หรือ อุปรากรเป็นความร่วมมือในกรอบโครงการวัฒนธรรมและศิลปะ “Lên Ngàn”  โรงละครอุปรากรเวียดนามและนักออกแบบท่าเต้น ตู๊หว่าง ซึ่งเปิดม่านการแสดง ณ โรงละครห่งห่าในกรุงฮานอยเมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยมีวิธีการนำเสนอใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการแสดงละครเวทีพื้นเมือง
บทละครอุปรากร “Facing Infinity” การผสานระหว่างการแสดงอุปรากรและการเต้นรำร่วมสมัย - ảnh 1ภาพการแสดง
 
 

บริบทของละครคือช่วงปี 1986 ถึงปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่อัตลักษณ์ส่วนบุคคลได้รับการพัฒนา แต่บางที ผู้คนก็มีความเหงา มีอารมณ์เศร้า ท้อแท้ หดหู่ เพราะไม่มีใครเข้าใจ โดยตัวละครเอกมีความลังเลใจ รู้สึกเศร้าใจ ทำอะไรไม่ถูก มีความสับสนทั้งเรื่องในอดีต ปัจจุบันและอนาคต แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเผชิญกับปัญหาเพื่อแสวงหาคุณค่าของการคงอยู่ นาย เหงวียนก๊วกหว่าง ผู้อำนวยการฝ่ายดนตรีและเสียงบทละคร “Facing Infinity” ได้เผยว่า

ผลงานนี้มีการผสานระหว่างการเต้นรำ การแสดงละคร กิจกรรมวัฒนธรรมและศิลปะชุมชน เช่น การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ส่วนสำหรับบทเพลงนั้นเป็นเพลงทำนอง “ต่วง” หรือ อุปรากรเวียดนามและการแสดงพื้นเมืองต่างๆ โดยเฉพาะการปรับจังหวะและความเร็วของเพลงให้น่าฟังและสอดคล้องกับการแสดงละครเวทีเพื่อสื่อถึงกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมความเชื่อ วิธีการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและการเผชิญปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวัน”

ทั้งนี้ บทละครเรื่อง “Facing Infinity” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มสร้างสรรค์ในการผสมผสานด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะการต่อยอดการแสดงต่วง หรือ อุปรากร ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะพื้นเมืองที่ล้ำเลิศที่สุดของเวียดนาม ศิลปินประชาชน เจิ่นลีลี รักษาการอธิบดีกรมการแสดงศิลปะสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวได้ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ของบรรดาศิลปินที่เข้าร่วมการแสดงบทละครเรื่อง “Facing Infinity”ว่า

ในการแสดงเต้นรำร่วมสมัย ต้องมีการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคตและการเชื่อมโยงระหว่างศิลปิน ความเข้าใจโลกหลายมิติและผู้ชม เพื่อทำให้ผู้ชมจินตนาการว่า สิ่งที่เห็นจะเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นคุณค่าของการแสดงศิลปะ”

บทละครอุปรากร “Facing Infinity” การผสานระหว่างการแสดงอุปรากรและการเต้นรำร่วมสมัย - ảnh 2มีวิธีการนำเสนอใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการแสดงละครเวทีพื้นเมือง

นอกจากผสานการเต้นรำ ดนตรีร่วมสมัยกับการแสดงอุปรากรเวียดนามแล้ว ยังมีการผสานดนตรีทดลองกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ Vinahouse ที่คล้ายๆกับเพลงทำนองเจ่าวัน โดยมีการจัดฉากบนเวทีที่น่ากลัวท่ามกลางเสียงกลอง การเล่นพิณแจงหรือในภาษาจีนเรียกว่า กู่เจิง พิณเบ่า หรือ พิณสายเดียวและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียด ฮึกเหิม ลึกลับและน่าประทับใจ นักแสดง Chaly win และศิลปิน ดั่งบ๊าต่าย อดีตหัวหน้าแผนกนาฏศิลป์ของโรงละครอุปรากรเวียดนามได้ให้ข้อสังเกตว่า

การแสดงละครเรื่อง “Facing Infinity”น่าสนใจมาก จากการเป็นนักแสดงต่างชาติที่อยากศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมเวียดนาม ผมคิดว่า การแสดงศิลปะทุกชนิตของเวียดนามล้วนมีความโดดเด่น ซึ่งการแสดงละครเรื่อง “Facing Infinity”แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาและต่อยอดการแสดงศิลปะพื้นเมืองของเวียดนาม ซึ่งน่าประทับใจมาก”

“ศิลปินรุ่นใหม่ได้ไปดูการแสดงละครอุปรากรของคณะศิลปินหมู่บ้านฟู้เหมินเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับทำการแสดงละครเรื่อง “Facing Infinity” ซึ่งสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ที่ชอบและเข้าใจศิลปะพื้นเมืองอย่างถ่องแท้ก็จะมีวิธีการเข้าถึงใหม่ๆที่สอดคล้องกับแนวโน้มและมาตรฐานระดับโลก”

ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า การแสดงละครเรื่อง “Facing Infinity”เป็นการแสดงแบบก้าวกระโดดทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบการแสดงที่มีการผสานระหว่างการเต้นรำร่วมสมัยและการแสดงอุปรากรเวียดนามอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ โดยในการแสดงรวม 3 คืน สามารถขายบัตรได้กว่า 1,100 ใบ ผู้ชมส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 22-35 ปี ซึ่งช่วยนำศิลปะพื้นเมืองเข้าใกล้ผู้ชมรุ่นใหม่มากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด