(VOVWORLD) - ในหนังสือพิมพิมพ์ฉบับต่างๆช่วงตรุษเต๊ดเปี่ยมไปด้วยบทความที่สะท้อนบรรยากาศการต้อนรับปีใหม่ที่ชื่นมื่นและสนุกสนานของประชาชนเวียดนามที่อยู่อาศัยทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเทศกาลและขนมธรรมเนียมประเพณีในช่วงตรุษเต๊ดของคนเวียดนาม
พิธีเปิดงานที่กรุงฮานอย
|
หนังสือพิมพ์ยามวสันต์ถือเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษในช่วงปีใหม่ประเพณีของคนเวียดนาม โดยมีเนื้อหาหลากหลายและน่าสนใจ เป็นอาหารทางจิตใจของคนเวียดนามในช่วงตรุษเต๊ด นำเสนอบรรยากาศต้อนรับตรุษเต๊ดที่อบอุ่น สนุกสนานและความหวังต่างๆในปีใหม่ นาย โห่กวางเหลยะ รองประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามเผยว่า “หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆในช่วงตรุษเต๊ตต่างสะท้อนสถานการณ์ของประเทศ โดยเฉพาะสีสันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ความสนุกสนานและความเชื่อมั่นของประชาชนทุกชั้นชนต่อการพัฒนาของประเทศ รวมทั้งเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติเวียดนามในช่วงตรุษเต๊ต”
บทความ “ไปเที่ยวพื้นที่ใหม่ๆเพื่อศึกษาค้นคว้าขนบธรรมเนียมประเพณีที่แปลกใหม่” ที่ลงในหนังสือพิมพ์เญินเซินหรือประชาชนได้แนะนำขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่นต่างๆในช่วงตรุษเต๊ด เช่น เทศกาลขโมยของเพื่อนำโชคที่อำเภอฟองโถ จังหวัดลายโจว์ เทศกาล “จับ” เมียของชาวม้งในตำบลฟาลอง อำเภอเหมื่องเคือง จังหวัดลาวกาย เป็นต้น
ส่วนหนังสือพิมพ์ต๋วยแจ๋หรือเยาวชนได้ลงบทความแนะนำขนมข้าวต้มมัดใหญ่สีดำของชนกลุ่มน้อยเผ่าไต โดยอธิบายวิธีการห่อที่ใช้วัตถุดิบเฉพาะถิ่น เช่น ข้าวเหนียว หมูสามชั้น ถั่วเขียว พริกและใบตอง แต่เคล็ดลับอยู่ที่การใช้ถ่านจากต้นไม้ชนิดต่างๆเพื่อทำให้ขนมนี้มีสีดำ
ในคอลัมม์ชีวิตสังคมของหนังสือพิมพ์มหาสามัคคีหรือด๋ายดว่านเก๊ดได้ลงบทความยกย่องการดูแลสวัสดิการให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพในตำบลเลจี อำเภอจีตน จังหวัดอานยางของพุทธสมาคมเวียดนามและทางการปกครองท้องถิ่นที่ได้ก่อสร้างและมอบที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัวที่ยากจนในช่วงตรุษเต๊ต ส่วนบทความ “ตรุษเต๊ตโพ้นทะเล” ในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้กล่าวย้ำถึงบรรยากาศการต้อนรับปีใหม่ของคนเวียดนามที่กำลังอาศัยในประเทศรัสเซียและเยอรมนี แม้อยู่ห่างไกลจากปิตุภูมิแต่ทุกคนยังคงรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมและประเพณีของประชาชาติเอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ บทความ “เต๊ดทาเฮือง” ได้สะท้อนความคิดถึงบ้านของชุมชนชาวเวียดนามที่กำลังอาศัยในประเทศสหรัฐและอังกฤษเพราะยังไม่มีโอกาสกลับเวียดนามเพื่อฉลองปีใหม่ประเพณี
นี่คืออาหารทางจิตใจที่ขาดมิได้ของคนเวียดนามในทั่วประเทศ |
ส่วนหนังสือพิมพ์ฮานอยได้ลงบทความเกี่ยวกับตลาดดอกไม้ “ห่างเหลือก” ซึ่งเป็นตลาดพิเศษที่ขายดอกไม้เฉพาะในช่วงตรุษเต๊ดเท่านั้น ซึ่งมีความคึกคักเป็นอย่างมากและเป็นสถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของชาวฮานอยรุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำถึงวันที่ 30 เดือน 12
หนังสือพิมพ์ “ติงฮวาเดิ๊ดเหวียด” ได้ระบุ 5 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนามในฤดูใบไม้ผลิ เช่น เทศกาลวัดเฮืองที่อำเภอหมีดึ๊ก กรุงฮานอย เทศกาลลิมที่จังหวัดบั๊กนิงห์ เทศกาลนุ้ยบ่าแดนที่จังหวัดเตยนิงห์ พร้อมทั้งลงบทสารคดีเกี่ยวกับหมู่บ้านซาแด๊ดที่ปลูกดอกไม้ในจังหวัดด่งทาปและหมู่บ้านปลูกดอกไม้ฝุงกง จังหวัดฮึงเอียนที่เร่งเตรียมดอกไม้เพื่อขายในช่วงตรุษเต๊ด
ส่วนหนังสือพิมพ์กองทัพประชาชนหรือกวนโด๋ยเญินเซินได้ลงบทสารคดีที่สะท้อนบรรยากาศการต้อนรับฤดูใบไม้ผลิของทหารและประชาชนบนเกาะต่างๆของหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเเปรตลี แม้บรรยากาศต้อนรับปีใหม่กำลังมีขึ้นอย่างคึกคักแต่ทหารทุกคนในหมู่เกาะเจื่องซาก็ยังคงพยายามปฏิบัติหน้าที่การพิทักษ์รักษาทะเลและหมู่เกาะของปิตุภูมิให้ลุล่วงไปด้วยดี สำหรับเนื้อหานี้ หนังสือพิมพ์ต๋วยแจ๋ก็ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ปกป้องท้องฟ้ายามวสันต์” ที่เล่าเรื่องทหารที่ประจำสถานีเรดาร์ 55 ที่เกาะฟู้กวี๊ ที่แม้จะมีชีวิตที่ลำบากและคิดถึงบ้านมากแต่ทหารทุกนายก็ยังคงสามัคคี ช่วยเหลือจุนเจือกันเหมือนสมาชิกในครอบครัวเพื่อเสร็จสิ้นหน้าที่การพิทักษ์รักษาท้องฟ้าของประเทศที่ได้รับมอบหมาย สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้อ่าน
ปี 2020 คือปีชวดตามประเพณีของเวียดนาม ดังนั้นในหนังสือบางฉบับก็มีการนับและทบทวนปีชวดที่มีนิมิตหมายสำคัญในประวัติศาสตร์เวียดนาม คำกลอนคู่ ประมวลภาพเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิในท้องถิ่นต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อถึงช่วงเวลานี้ในทุกๆปี ผู้อ่านมักจะรอคอยหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษเหล่านี้ นาย เหงียนเยียนเนียน ชาวฮานอยที่แวะมาชมงานหนังสือพิมพ์ยามวสันต์ฮานอยได้แสดงความคิดเห็นว่า “ผมได้ชมทุกบูธที่จัดแสดงในงานและเห็นว่า หนังสือพิมพ์ยามวสันต์ส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่หลากหลาย น่าสนใจและมีภาพสวยงาม ส่วนการจัดงานในวันนี้ก็คึกคักเป็นอย่างมาก”
ทุกๆปี ท้องถิ่นต่างๆมักจะจัดงานหนังสือพิมพ์ยามวสันต์พร้อมกับการจัดกิจกรรมวัฒนธรรมและการแสดงศิลปะต่างๆเพื่อฉลองปีใหม่ประเพณี ดังนั้นเมื่อวสันต์ฤดูเวียนมา หนังสือพิมพ์ยามวสันต์ถือเป็นอาหารทางจิตใจที่ขาดมิได้ของคนเวียดนามในทั่วประเทศ.