อาชีพทำข้าวเม่าเหม๋จี – มรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติ
Ngọc Anh -  
(VOVWORLD) - เมื่อเร็วๆนี้ อาชีพทำข้าวเม่าเหม๋จีในเขตตื่อเลียมใต้ กรุงฮานอยได้ถูกระบุในรายชื่อมรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติตามมติของกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว
ประตูสู่เขตเหม๋จีเหนือ |
อาชีพทำข้าวเม่าในหมู่บ้านเหมจีมีอายุกว่า 100 ปี โดยมีครอบครัวผลิตข้าวเม่าหลายครอบครัวในเขตเหม๋จีเหนือและเขตเหม๋จีใต้ สำหรับข้าวที่ใช้ทำข้าวเม่าต้องเลือกข้าวสารเหนียวพันธุ์เลืองเฝือง พันธุ์ตาน พันธุ์ข้าวหอมและพันธุ์เนบก๊ายฮวาหว่าง โดยต้องนำข้าวเปลือกเหนียวไปคั่วให้สุก แล้วนำไปตำเพื่อแยกข้าวออกจากรำ นาย เจิ่นวันแถ่ง เจ้าของโรงผลิตข้าวเม่าทูเหะในเขตเหม๋จีเหนือได้เผยว่า“วัตถุดิบที่ใช้ทำข้าวเม่าต้องเป็นข้าวที่อยู่ในระยะน้ำนมและต้องเป็นข้าวเหนียวพันธุ์เนบก๊ายฮวาหว่าง โดยต้องใช้ไฟในระดับที่พอเหมาะเพื่อคั่วให้ข้าวเปลือกนุ่มและสุกพอดีข้าวเปลือกเหนียว 17 – 18 กิโลกรัม ต้องใช้เวลาคั่ว 1ชั่วโมง 45 นาที ส่วนสำหรับขั้นตอนการตำก็ต้องมีเทคนิกเพื่อแยกรำออกจากข้าวและข้าวยังคงเป็นเม็ดสวย โดยข้าวเปลือก10กิโลกรัมสามารถทำข้าวเม่าได้1.6-1.7กิโลกรัม”
ปัจจุบัน อาชีพทำข้าวเม่าในหมู่บ้านเหม๋จีมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยเมื่อก่อน ชาวบ้านจะทำข้าวเม่าเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ ชาวบ้านทำข้าวเม่าตลอดทั้งปี ส่วนผลิตภัณฑ์จากข้าวเม่าก็ได้รับการพัฒนาให้มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและมีการใช้เครื่องจักรกลในการทำเข้าเม่าแทนการทำด้วยมือเพื่อประหยัดเวลา ลดต้นทุนการผลิต แต่ยังคงได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ นาย เหงวียนฮึวเกิ๋น ชาวบ้านในเขตเหม๋จีใต้ได้เผยว่า“การทำข้าวเม่าด้วยมือลำบากมากเพราะมีหลายขั้นตอนและต้องใช้คนเยอะ แต่ปัจจุบัน มีการนำเครื่องจักมาใช้ เช่น เครื่องคั่ว เครื่องตำ เครื่องปั่นและเครื่องล้างข้าวสารเพื่อประหยัดแรงงาน เพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังคงได้ข้าวเม่าที่อร่อยเหมือนเดิม ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์จากข้าวเม่ามีมากมาย เช่น ทอดมันหมูข้าวเม่า ข้าวเม่ามูน ขนมข้าวเม่า เป็นต้น และมีการส่งออกข้าวเม่าของหมู่บ้านเหมจีไปยังประเทศต่างๆ”
ข้าวสารเหนียวพันธุ์เนบก๊ายฮวาหว่าง |
เอกลักษณ์ของข้าวเม่าของหมู่บ้านเหม๋จีที่ไม่เหมือนที่อื่นคือยังคงมีสีธรรมชาติของข้าว ข้าวเม่าห่อด้วยใบบัวและผูกด้วยฟางที่ยังคงสีเขียวเพื่อเติมแต่งความสวยงามและเพิ่มกลิ่นหอมให้แก่ข้าวเม่า ซึ่งใบบัวเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ความหอมจากใบบัวคลุกเคล้ากับกลิ่นหอมของข้าวเม่าทำให้ได้กลิ่นหอมพิเศษ
ชาวบ้านเหม๋จีมีความภาคภูมิใจที่ประธานาธิบดีสหรัฐเคยมาเยือน โดยในการเยือนเวียดนามเมื่อเดือนพฤษภาคมปี2016 ก่อนที่จะเดินทางออกจากกรุงฮานอย ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา ได้มาเยือนหมู่บ้านเหมจีเพื่อพูดคุยกับชาวบ้านและซื้อข้าวเม่า นาย โด๊ะฮวีหุ่ง หัวหน้าสโมสรหมู่บ้านทำข้าวเม่าเหมจีได้เผยว่า“ในการประชุมสุดยอดสหรัฐ-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเมื่อเร็วๆนี้ พวกเราได้ประชาสัมพันธ์และทำเมนูหลายอย่างจากข้าวเม่า เช่น ข้าวเม่าสด ข้าวเม่ามูนและทอดมันหมูข้าวเม่า เป็นต้น เพื่อเสริฟให้แก่บรรดาผู้แทนและนักข่าวต่างชาติ ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติและศูนย์ข่าวนานาชาติในกรุงฮานอย ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2012 หมู่บ้านเหม๋จีได้จัดงานวันวัฒนธรรมข้าวเม่า ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อปี 2018 พวกเราได้เข้าร่วมงานมหกรรมอาหารกรุงฮานอย ปัจจุบัน หมู่บ้านเหม๋จีมีครอบครัวผลิตข้าวเม่า 85 ครอบครัวและมีชั้นเรียนสอนทำข้าวเม่าให้แก่นักท่องเที่ยว”
เมนูหลายอย่างจากข้าวเม่า เช่น ข้าวเม่าสด ข้าวเม่ามูนและทอดมันหมูข้าวเม่า |
ข้าวเม่าไม่เพียงแต่เป็นเมนูเด็ดของหมู่บ้านเหม๋จีเท่านั้นหากยังเป็นเมนูเด็ดของกรุงฮานอยที่ชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวชื่นชอบอีกด้วย โดยชาวบ้านยังคงรักษาเคล็ดลับการทำข้าวเม่าซึ่งไม่มีที่ใดเหมือนตั้งแต่อดีตเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ปัจจุบัน ข้าวเม่าเหมจีได้ถูกระบุในรายชื่ออาหารพื้นบ้านของเวียดนามและเป็นหนึ่งในของฝากที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องซื้อเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวกรุงฮานอย.
Ngọc Anh