ท่านเลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องเผยว่า ที่ประชุมครั้งที่ 12 นี้ จะหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมในปี 2015 แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2016 การเตรียมพร้อมบุคลากรให้แก่คณะผู้บริหารพรรคสมัยที่ 12 แนวทางการเลือกตั้งรัฐสภาสมัยที่ 14 และการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนทุกระดับวาระปี 2016-2021 และปัญหาอื่นๆ

เลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องระบุว่า ปี 2015 เป็นปีสุดท้ายในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ระยะปี 2011-2015 และปี 2016 เป็นปีแรกของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีระยะปี 2016-2020 ดังนั้นการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมของประเทศตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันและการคาดการณ์ของปี 2015 อย่างถูกต้องจะเป็นพื้นฐานสำคัญเพื่ออัพเดทข้อมูล ทำการประเมินอย่างถูกต้องและสร้างความเป็นเอกฉันท์ในสมาชิกพรรคและหมู่ประชาชนเกี่ยวกับผลการปฏิบัติเป้าหมายและหน้าที่การพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมที่วางไว้ในการประชุมสามัชชาพรรคสมัยที่ 11 และมติของการประชุมคณะผู้บริหารพรรคฉบับต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การสร้างสรรค์และปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมปี 2016 ให้ประสบความสำเร็จ สร้างพลังขับเคลื่อนและค้ำประกันให้แก่การปฏิบัติเป้าหมายและหน้าที่การพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมระยะปี2016ถึงปี2020 และยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม ระยะปี 2010ถึงปี2020ประสบความสำเร็จ ท่านเหงียนฟู้จ่องระบุอย่างชัดเจนว่า “ต้องเน้นประเมินและเห็นพ้องกันเกี่ยวกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหาภาค คุณภาพการขยายตัว รูปแบบความยั่งยืนในการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม สถานการณ์การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ประกอบธุรกิจ แก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิตและประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะกิจการของผู้ประกอบการภายในประเทศและภาคการเกษตร ผลการปฏิบัติก้าวกระโดดทางยุทธศาสตร์และการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว ซึ่งก่อนอื่นคือการปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนภาครัฐ การปฏิรูปโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐและระบบธนาคารพาณิชย์ สถานการณ์พัฒนาในด้านวัฒนธรรม – สังคม การปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น งานด้านกลาโหม ความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยในสังคม การรักษาความมั่นคงด้านการเมือง บรรยากาศสันติภาพและความสะดวกเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ”

เลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรคทำการวิเคราะห์และคาดเดาสถานการณ์ในช่วงปลายปี 2015 วางเป้าหมายทั่วไป เป้าหมายหลักและหน้าที่หลักที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการบริหารและชี้นำการปฏิบัติ สร้างความเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีในด้านคุณภาพและมีลักษณะที่เป็นก้าวกระโดดสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2016 และปีต่อๆไป

สำหรับการเตรียมบุคลากร ท่านเหงียนฟู้จ่องเผยว่า การลงคะแนนไว้วางใจให้เข้าเป็นกรรมการบริหารพรรคในรอบแรกและรอบที่สองได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังตามเวลาที่กำหนด ตามระเบียบขั้นตอนและข้อเสนอแนะของอนุกรรมการบุคลากร ส่วนหน่วยงานที่เฝ้าติดตามและเป็นพยานในการลงคะแนนไว้วางใจนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างจริงจังและมีความรับผิดชอบสูง ในการประชุมครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่กรมการเมืองพรรคได้รายงานการเตรียมบุคลากรให้แก่กรมการเมืองพรรค กรรมการคณะเลขาธิการและตำแหน่งบริหารสำคัญต่างๆ ท่านเหงียนฟู้จ่องชี้ชัดว่า “ผมขอเรียกร้องให้ที่ประชุมครั้งนี้เน้นพิจารณารายงานของกรมการเมืองพรรคและเอกสารเกี่ยวกับบุคลากรเพื่อหารือและแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะข้อเสนอเกี่ยวกับการพิจารณากรณี “พิเศษ” ที่กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกกรมการเมืองพรรค กรรมการคณะเลขาธิการพรรคสมัยที่ 11 ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่ 12  บนพื้นฐานคือมาตรฐานสำหรับ 4 ตำแหน่งผู้นำสำคัญที่ถูกระบุในแผนการบุคลากร รายงานได้เสนอมาตรฐานที่เป็นรูปธรรมของแต่ละตำแหน่ง ประกอบด้วย เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ นายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภา เกี่ยวกับวิธีการคัดเลือกตำแหน่งผู้นำสำคัญ ความเป็นเอกฉันท์ในด้านนี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญให้คณะผู้บริหารพรรคหารือและตัดสินใจเกี่ยวกับบุคลากรในการประชุมนัดต่อไป”

สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 14 และการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนทุกระดับวาระปี 2016-2021 เลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องได้ระบุอย่างชัดเจนว่า นี่คือกิจกรรมทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและสภาประชาชนในเวลาที่จะถึงนี้จะเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ที่ปฏิบัติตามมติของการประชุมครั้งที่ 4 คณะผู้บริหารพรรคสมัยที่ 10 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการเลือตั้งสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกสภาประชาชนทุกระดับในเวลาเดียวกัน สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2013 และกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งฉบับปัจจุบัน ท่านเลขาธิการใหญ่ได้เรียกร้องให้ที่ประชุมวิเคราะห์ เสริมเพิ่มเติมและระบุอย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเป็นเอกฉันท์ในปัญหาสำคัญและมีความหมายชี้ขาดต่อความสำเร็จของการเลือกตั้งเหล่านี้.