การประชุมผู้นำสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
Quang Dung- VOV5 -  
(VOVWORLD) -ที่ประชุมผู้นำสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนครั้งที่ 9 ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 26 -27 พฤษภาคม ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ให้คำมั่นส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทำการสนทนาเพื่อธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาพของการประชุม (Photo: Yonhap/ TTXVN) |
นี่เป็นการประชุมผู้นำระหว่างสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลังกว่า 4 ปีที่ชะงักงัน โดยมีการเข้าร่วมนาย ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนาย หลีเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลัก
ภายหลังประชุมมาเป็นเวลา 2 วัน การพบปะทวิภาคีและไตรภาคีต่างๆและฟอรั่มเศรษฐกิจ บรรดาผู้นำทั้งสามประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วม โดยประเมินว่า ความร่วมมือระหว่างสามประเทศได้รับการพัฒนาในหลายด้าน นำผลประโยชน์มาให้แก่ประเทศและประชาชนทั้งสามประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่า นี่เป็นพื้นฐานที่มีความหมายต่อความร่วมมือในภูมิภาค แถลงการณ์ร่วมยังระบุถึงความพยายามส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสามฝ่าย โดยเห็นพ้องกันว่า ความพยายามร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสามประเทศมีบทบาทที่สำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก สาธารณรัฐเกาหลี จีนและญี่ปุ่นได้ยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่โปร่งใส เปิดเผย รอบด้าน ตามกฎหมาย และไม่เลือกปฏิบัติ โดยองค์การการค้าโลกหรือ WTO มีบทบาทเป็นหลัก ทั้งสามประเทศได้ยืนยันถึงความสำคัญในการค้ำประกันการปฏิบัติกลไกความร่วมมือในภูมิภาคที่มีอยู่ ผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTAระหว่างสามฝ่าย นาย ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศว่า
“ก่อนอื่น พวกเราต้องส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภูมิภาคบนพื้นฐานของความไว้วางใจและการเคารพกัน ผลักดันการใช้กลไกการค้าระหว่างสามฝ่าย ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ฟื้นฟูการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสามประเทศที่ชะงักงันนับตั้งแต่ปี 2019 เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ”
นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นว่า สาธารณรัฐเกาหลี จีนและญี่ปุ่นไม่เพียงแต่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเท่านั้นหากยังต้องเผชิญกับความท้าทายร่วม จึงควรส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสนับสนุนกัน
"ทั้งสามประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายร่วมเช่น อัตราการเกิดต่ำ อัตราประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขควบคู่กับการสนับสนุนกัน ดังนั้น พวกเราจะส่งเสริมความสามัคคีระหว่างรัฐบาลประเทศต่างๆ ระหว่างสถานประกอบการ ระหว่างรัฐบาลกับสถานประกอบการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสามประเทศในเวลาที่จะถึง”
โดยก่อนอื่น ทั้งสามประเทศได้กำหนดประเด็นที่ได้รับความสนใจในการปฏิบัติโครงการรร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเน้นถึง 6 ด้านหลักที่มีความผูกพันกับชีวิตของประชาชน ซึ่งประกอบด้วย การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน การพัฒนาอย่างยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า สุขภาพของชุมชนและปัญหาประชากรสูงอายุ ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการกู้ภัยธรรมชาติ ทั้งสามประเทศจะส่งเสริมความร่วมมือ “สามฝ่าย + "เพื่อขยายความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ให้คำมั่นที่จะแก้ไขผลประทบจากปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ต่อชีวิตของมนุษยชาติ ย้ำถึงความสำคัญของการธำรงการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ AI
น นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นาย ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และนาย หลีเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน (Photo: Yonhap/TTXVN) |
การสนทนาเพื่อธำรงเสถียรภาพ
นอกจากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงยังเป็นหัวข้อที่สำคัญที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะ ปัญหาด้านนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องถึงการทดลองขีปนาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและการซ้อมรบของประเทศต่างๆในภูมิภาค ในการนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ เผยว่า ผู้นำทั้งสามประเทศได้แลกเปลี่ยนจุดยืนว่า การปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ความมีเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นผลประโยชน์ร่วมของทั้งสามประเทศ ส่วนนาย หลีเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ย้ำถึงการสนทนาและการใช้ความอดกลั้นเพื่อธำรงบรรยากาศที่สันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
“จีนให้คำมั่นที่จะธำรงสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ส่งเสริมการบรรลุมาตรการทางการเมืองบนคาบสมุทรเกาหลี แต่อย่างไรก็ดี พวกเราหวังว่า ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องจะธำรงการใช้ความอดกลั้น หลีกเลี่ยงไม่ทำให้สถานการณ์ทวิภาคีมีความซับซ้อนมากขึ้น”
บรรดาผู้นำสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนยังยืนยันถึงการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกับอาเซียน โดยเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือระหว่างสามฝ่ายในกรอบของอาเซียน เช่น อาเซียน+3 การประชุมระดับสูงเอเชียตะวันออกหรือ EAS และฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือ ARF พร้อมทั้งสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางและความสามัคคีของอาเซียน.
Quang Dung- VOV5