(VOVWORLD) - ในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาและเพิ่งเกิดใหม่ของโลกหรือ G20 ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 กันยายน ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย สหภาพแอฟริกาหรือ AU ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมกลุ่ม G20 ซึ่งถือเป็นชัยชนะทางการทูตสำหรับประเทศในทวีปแอฟริกา และเป็นการรับทราบบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของทวีปแอฟริกาบนเวทีโลก
การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาและเพิ่งเกิดใหม่ของโลกหรือ G20 (ANI) |
นาย นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด G20 ได้ประกาศคำเชิญสหภาพแอฟริกาหรือ AU เข้าร่วมกลุ่ม G20 ในพิธีเปิดการประชุมฯ เมื่อเช้าวันที่ 9 กันยายน ณ กรุงนิวเดลี สหภาพแอฟริกาจะได้รับการรับรองเป็นสมาชิกถาวรเต็มรูปแบบของกลุ่ม G20 ตั้งแต่การประชุมสุดยอดในปีหน้า ณ ประเทศบราซิล และจะมีสถานะเทียบเท่ากับสหภาพยุโรปหรือ EU แทนการเป็น “องค์กรระหว่างประเทศที่ได้รับเชิญ” ในปัจจุบัน
ชัยชนะทางการทูตของสหภาพแอฟริกา
สำหรับสหภาพแอฟริกาหรือ AU ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการเข้าร่วมของประเทศในแอฟริกาเกือบทั้งหมดคือ 55 ประเทศ ถือเป็นชัยชนะทางการทูตครั้งประวัติศาสตร์เนื่องจากสหภาพแอฟริกาได้ขอเข้าร่วมกลุ่ม G20 ตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อนก่อน แต่ได้ประสบความล้มเหลว ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ในปีนี้ มีประเทศจากทวีปแอฟริกาเพียงประเทศเดียวที่ได้เข้าร่วมกลุ่ม G20 คือประเทศแอฟริกาใต้
นาย Azali Assoumani ประธานาธิบดีคอโมโรสและประธานสหภาพแอฟริกาได้แสดงความเห็นว่า การที่กลุ่ม G20 รับสหภาพแอฟริกาเป็นสมาชิกได้แก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมเนื่องจากสหภาพแอฟริกามีสมาชิก 55 ประเทศ มีประชากร 1.4 พันล้านคน และ GDP เกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสมควรมีเสียงพูดในองค์กรที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“การรับสหภาพแอฟริกาที่มีประเทศสมาชิก 55 ประเทศและ GDP นับล้านล้านดอลลาร์เป็นสมาชิกของกลุ่ม G20 ถือเป็นชัยชนะทางการทูต นี่เป็นข้อความที่เข้มแข็งและเป็นโอกาสที่ดีเพื่อให้แอฟริกาปกป้องผลประโยชน์ของตนในองค์กรซึ่งเป็นศูนย์กลางของการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลกให้ดีขึ้น”
ในจดหมายเชิญสหภาพแอฟริกาเข้าร่วมกลุ่ม G20 นาย นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยังยืนยันว่า การที่สหภาพแอฟริกาเข้าร่วมกลุ่ม G20 นั้นเป็นก้าวเดินที่ถูกต้องเพื่อมุ่งสู่ระบบโครงสร้างธรรมาภิบาลระดับโลกที่มีความยุติธรรม ครอบคลุมและมีลักษณะของการเป็นตัวแทนมากขึ้น
ประเทศสมาชิกสำคัญหลายประเทศของกลุ่ม G20 สนับสนุนการเข้าร่วมของสหภาพแอฟริกา ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ในปีนี้ ณ ประเทศอินเดีย โดยเยอรมนีได้รณรงค์อย่างแข็งขันเพื่อให้กลุ่ม G20 รับสหภาพแอฟริกาเป็นสมาชิก ในขณะเดียวกัน นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐได้เรียกว่า นี่คือ “เหตุการณ์ที่รอคอยมานาน” และในการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ณ ประเทศอินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐก็แสดงการสนับสนุนกลุ่ม G20 เกี่ยวกับการมอบสถานะสมาชิกภาพเต็มรูปแบบแก่สหภาพแอฟริกา
นาย นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กับนาย นาย Azali Assoumani ประธานาธิบดีคอโมโรส (AFP) |
เพิ่มอำนาจการต่อรองเจรจา
ในการประเมินเกี่ยวกับความหมายของการที่สหภาพแอฟริกาเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม G20 นาย วิลเลียม รูโต ประธานาธิบดีเคนยาได้แสดงความเห็นว่า การเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบจะช่วยให้สหภาพแอฟริกามีบทบาทต่อกระบวนการตัดสินใจของกลุ่ม G20 รวมถึงนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงถึงผลประโยชน์ของแอฟริกา เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การลดหนี้ให้แก่ประเทศยากจนหรือการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
นาย เอ็มมานูเอล อิกาห์ นักวิจัยทางการเมืองจากไนจีเรียแสดงความเห็นว่า การที่กลุ่ม G20 รับสหภาพแอฟริกาเป็นสมาชิกเป็นการรับทราบถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศต่างๆในซีกโลกใต้ในปัญหาทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลก
ตามความเห็นของนาย เอ็มมานูเอล อิกาห์ ทวิปแอฟริกากำลังมีความได้เปรียบที่สำคัญเป็นพิเศษเกี่ยวกับประชากรและทรัพยากรธรรมชาติ ในด้านประชากร ปัจจุบัน ภูมิภาคแอฟริกามีประชากรเกือบ 1.4 พันล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในปี 2050 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรโลก ทวีปแอฟริกายังเป็นเจ้าของทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 60 ของโลก และร้อยละ 30 ของแร่ธาตุสำรองที่มีบทบาทสำคัญต่อเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่โลกกำลังพัฒนาเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น อำนาจการต่อรองเจรจาของสหภาพแอฟริกาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าร่วมกลุ่ม G20
“สหภาพแอฟริกาได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากเมื่อเข้าร่วมกลุ่ม G20 เช่น ในการเจรจาเกี่ยวกับราคานำเข้าวัตถุดิบ ปัจจุบัน การจ่ายค่าวัตถุดิบที่นำข้าจากทวีปแอฟริกาอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ประเทศนำเข้ารายใหญ่ล้วนแต่อยู่ในกลุ่ม G20 แน่นอนว่า กลุ่มแอฟริกาต้องมีเสียงพูดเดียวกัน ต้องไม่ขัดแย้งกันเพื่อไม่ให้ทั้งทวีปได้รับความเสียหาย”
สำหรับผู้สังเกตการณ์ ชัยชนะทางการทูตของสหภาพแอฟริกาในการประชุมสุดยอด G20 ในปีนี้ยังเป็นสัญญาณใหม่ที่ยืนยันอีกครั้งถึงแนวโน้มที่โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบนเวทีระหว่างประเทศคือ บทบาทที่นับวันเพิ่มมากขึ้นในด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของ “ซีกโลกใต้” ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกา เอเชีย และลาตินอเมริกา
นี่ยังเป็นการประเมินของนาย ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนวาระต่อไปของกลุ่ม G20 ประธานาธิบดีบราซิลยืนยันว่า เมื่อการประชุมสุดยอด G20 จัดขึ้น ณ บราซิลในปีหน้า เสียงพูดของประเทศในซีกโลกใต้จะเพิ่มมากขึ้น.
หลังจากรับสหภาพแอฟริกาหรือ AU เป็นสมาชิก ขณะนี้ กลุ่ม G20 มี 19 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 2 องค์กร ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐเกาหลี ตุรกี สหราชอาณาจักร สหรัฐ สหภาพยุโรป และสหภาพแอฟริกา.