คาดว่า ในการอภัยโทษครั้งนี้จะมีนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษและปล่อยตัวก่อนกำหนดประมาณ 1 หมื่น 8 พันคน ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการอภัยโทษ เมื่อประธานประเทศประกาศมติการอภัยโทษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป ศาลประชาชนสูงสุดและกระทรวงยุติธรรม ต่างเร่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้การอภัยโทษในปีนี้มีความถูกต้องและเป็นไปตามข้อกำหนด

การอภัยโทษปี 2015 ได้รับการชี้นำโดยตรงจากนายเหงียนซวนฟุ๊ก รองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาให้คำปรึกษาการอภัยโทษส่วนกลาง ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดและมีการประกาศเอกสารแนะนำที่จำเป็นต่างๆอย่างครบถ้วนและทันการณ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งหนังสือพิมพ์และยังมีการประกาศให้นักโทษในเรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศรับทราบอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับเงื่อนไขการอภัยโทษและการโหวต ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและคัดเลือกตามเงื่อนไขได้รับการดำเนินการอย่างระมัดระวังและมีรายละเอียดที่ชัดเจน พลตรีเหงียนหงอกบั่ง อธิบดีกรมบังคับคดีอาญาและสนับสนุนด้านตุลาการสังกัดกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปเผยว่า เนื่องจากการชี้นำอย่างใกล้ชิดและการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ การอภัยโทษในปีนี้สามารถค้ำประกันความเข้มงวด เปิดเผย โปร่งใส มีประชาธิปไตย ความยุติธรรมตรงกับเป้าหมายให้แก่นักโทษทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวเวียดนามหรือชาวต่างชาติ  “เป้าหมายของเราคือ ต้องอภัยโทษให้แก่นักโทษทุกคนที่ผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดและไม่ปล่อยตัวนักโทษที่ไม่ผ่านเงื่อนไข ตามขั้นตอน พวกเราจะพิจารณานักโทษแต่ละคนและยื่นรายชื่อต่อสภาให้คำปรึกษาการอภัยโทษส่วนกลางทำการตรวจสอบ พิจารณา ต่อจากนั้นก็จะเสนอให้ประธานประเทศตัดสินใจ ในการอภัยโทษครั้งนี้ มีทั้งนักโทษชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วยเพราะว่าตามกฎหมายเวียดนาม คนเวียดนามหรือคนต่างชาติที่อาศัยในเวียดนามก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเวียดนาม ดังนั้น ถ้าหากนักโทษชาวต่างชาติผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดก็จะได้รับการอภัยโทษเหมือนคนเวียดนาม”

สามารถยืนยันได้ว่า การอภัยโทษได้ส่งผลดีมากมาย อย่างเช่น ในด้านสังคม การอภัยโทษเป็นการสร้างแรงจูงใจให้นักโทษทุกคนมีความพยายามมากขึ้นในการศึกษา ทำงาน ปฏิบัติตามระเบียบของเรือนจำเพื่อจะได้รับการอภัยโทษและกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวและชุมชนโดยเร็ว ข้อมูลสถิติล่าสุดปี 2013 เกี่ยวกับการอภัยโทษของกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปปรากฎว่า มีนักโทษที่กลับไปทำผิดอีกครั้งน้อยมาก คือคิดเป็นเพียงร้อยละ  0.73 เท่านั้น ดังนั้นแม้จะมีนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษเป็นจำนวนมากแต่สถานการณ์ความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในท้องถิ่นต่างๆก็ยังคงมีความปลอดภัย นอกจากนี้การอภัยโทษยังมีส่วนร่วมเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนโยบายแห่งความปราณีและมนุษยธรรมของพรรคและรัฐ

ในด้านเศรษฐกิจ การอภัยโทษและปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดภาระของเรือนจำ  ส่วนในด้านการเมือง การปฏิบัติขั้นตอนการพิจารณาการอภัยโทษอย่างเปิดเผย โปร่งใสและเป็นประชาธิปไตย การรายงานข่าวอย่างสมบูรณ์ให้แก่สำนักงานสื่อสารมวลชนทั้งภายในและต่างประเทศและการจัดให้องค์การสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศไปตรวจสอบเรือนจำต่างๆได้ช่วยให้พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายแห่งความปราณีและมนุษยธรรมของพรรคและรัฐที่มีต่อนักโทษ

นโยบายมนุษยธรรมของพรรคและรัฐเวียดนามไม่เพียงแต่มีการอภัยโทษและปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดเท่านั้น หากยังมีการอำนวยความสะดวกให้นักโทษเหล่านี้สามารถปรับตัวเข้ากับชุมชน พลตรีเหงียนหงอกบั่งอธิบดีกรมบังคับคดีอาญาและสนับสนุนด้านตุลาการสังกัดกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปยืนยันว่า “คำสั่งของประธานสภาให้คำปรึกษาการอภัยโทษส่วนกลางได้เรียกร้องให้ทางการท้องถิ่นต่างๆต้องรับบุคคลที่ได้รับการอภัยโทษกลับไปอาศัยในท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับชุมชน ไม่ให้พวกเขารู้สึกแปลกแยกและสร้างงานทำให้แก่พวกเขาเพื่อจะได้ไม่ทำผิดกฎหมายอีก”

ในความเป็นจริง นักโทษที่ได้รับการอภัยโทษส่วนใหญ่มีความตั้งใจที่จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีและกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนโดยเร็ว มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งบางคนสามารถสร้างฐานะและเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลต่างๆจนได้รับคำชื่นชมจากสังคม

ดังนั้น ในโอกาสฉลองครบรอบ 70 ปีวันชาติ 2 กันยายน นักโทษ 1 หมื่น 8 พันคนจะได้กลับเข้าสู่ชุมชน แม้อนาคตยังมีความลำบากมากมายแต่ควบคู่กับความพยายามกลับเนื้อกลับตัว ฟันฝ่าความรู้สึกแปลกแยกและความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและสร้างสรรค์ชีวิตใหม่ นโยบายแห่งความปราณีและมนุษยธรรมของพรรคและรัฐจะเปิดโอกาสให้นักโทษปรับตัวเข้ากับชุมชนและกลายเป็นพลเมืองที่ดี.