(VOVWORLD) - ในการประชุมครั้งที่ 2 คณะอนุกรรมการงานด้านบุคลากรของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 14 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ย้ำว่า ในทุกระยะของการปฏิวัติ ไม่ว่าในด้านไหน ท้องถิ่นใด งานด้านบุคลากรล้วนมีบทบาทชี้ขาด ในทางเป็นจริง หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 งานด้านนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพในจังหวัดและนครต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะการโยกย้ายและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร ซึ่งนี่คือมาตรการที่สำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านบุคลากรของพรรคในสภาวการณ์ใหม่
การโยกย้ายตำแหน่ง มาตรการใหญ่เพื่อปรับเปลี่ยนงานด้านบุคลากรของพรรค (dangcongsan.vn) |
ในรอบกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ท้องถิ่นต่างๆได้ปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 อย่างเข้มแข็ง โดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการโยกย้ายไปรับตำแหน่งงานใหม่ก็ประสบผลที่น่ายินดีในบริหารชี้นำทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นที่ตนรับผิดชอบ
การเปลี่ยนแปลงระดับท้องถิ่น
จังหวัดลาวกายมีตำบล แขวงและอำเภอเมือง 138 แห่งที่เป็นเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา โดยเป็นพื้นที่ยากจนพิเศษ 66 แห่ง ซึ่งในเวลาที่ผ่านมา งานด้านบุคลากรระดับผู้บริหารถือเป็นหน้าที่ที่ได้รับความสนใจพิเศษ รวมถึงการโยกย้ายเจ้าหน้าที่มารับตำแหน่งงานในท้องถิ่น
เมื่อปี 2019 นาย ดั่งกงฮวน รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการอำเภอเหมื่องเคืองได้ย้ายมารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลหลุ่งเค้ายิน ซึ่งเป็นหนึ่งในตำบลที่ยากจนที่สุดของอำเภอเหมื่องเคืองและจังหวัดลาวกาย ด้วยวุฒิการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ นาย ฮวนและคณะผู้บริหารตำบลฯได้ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ชาวบ้านปรับเปลี่ยนจิตสำนึกในการปลูกพืชที่ขาดประสิทธิภาพมาปลูกต้นชาและพันธุ์ไม้ประจำถิ่น ซึ่งทำให้อัตราครอบครัวที่ยากจนตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบันลดลงเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี
“จากที่มีไม่กี่ครอบครัวที่ปลูกต้นชา ตอนนี้ มีการปลูกต้นชาบนพื้นที่กว่า 400 เฮกตาร์ โดยสามารถเก็บใบชาในพื้นที่ 200 เฮกตาร์ สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชาวบ้าน นอกจากนี้ ทางตำบลฯยังพัฒนาเขตปลูกไม้ผล เช่น ส้มเขียวหวาน กล้วย ลูกแพร์ ลูกพีช ลูกพลัม ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว”
ส่วนที่อำเภอซีมากาย จังหวัดลาวกาย นาย ห่าดึ๊กมิง เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอฯได้เผยว่า ตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบัน ทางอำเภอได้ย้ายเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอมารับตำแหน่งงานระดับตำบล การเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานเจ้าหน้าที่ระดับตำบล รวม 6 แห่งเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่และค้ำประกันการปฏิบัติแนวทางแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บริหารที่ไม่ใช่ชาวท้องถิ่นและดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ
“แนวทางนี้ทำให้การบริหารชี้นำมีความโปร่งใสราบรื่น สร้างพลังเติมไฟในการทำงานสำหรับพรรคสาขาและทางการปกครองระดับท้องถิ่น ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการผลัดเปลี่ยนโยกย้ายงานสามารถตอบสนองความต้องการของหน้าที่การงาน”
นอกจากสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในท้องถิ่นแล้ว การเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานยังเป็นโอกาสเพื่อให้บรรดาเจ้าหน้าที่ฝึกฝนหล่อหลอมและพัฒนาตนเองมากขึ้น โดยที่อำเภอแถกห่า จังหวัดห่าติ๊ง การเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานได้ค้ำประกันความพร้อมเพรียง การเชื่อมโยงผสานกับการวางแผนด้านบุคลากรและการอบรมเจ้าหน้าที่ นาง เหงวียนถิเหงวียด เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอแถกห่าได้เผยว่า
“การเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝนหล่อหลอมและพัฒนาตนเองมากขึ้น ทุกปี คณะกรรมการพรรคสาขาอำเภอฯได้ประกาศแผนการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานที่มีการหารืออย่างรอบคอบและเป็นประชาธิปไตย โดยเลือกเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมและได้รับความนับถือมาปฏิบัติหน้าที่ต่างๆในท้องถิ่น โดยเฉพาะเขตที่ยากจนและเขตสำคัญเพื่อสร้างโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้งานและพยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเองมากขึ้น”
แนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของพรรค
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เน้นความสนใจต่องานด้านบุคลากรอยู่เสมอ โดยมติที่ 26 ของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 7 สมัยที่ 12 เกี่ยวกับการสร้างแถวขบวนเจ้าหน้าที่ทุกระดับ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ยุทธศาสตร์ที่มีคุณสมบัตรเพรียบพร้อมและได้รับการนับถือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างลุล่วงไปด้วยดี อีกทั้งตั้งเป้าหมายจนถึงปี2025 จะแต่งตั้งเลขาธิการพรรคสาขาระดับจังหวัดที่ไม่ใช่ชาวท้องถิ่น โดยกรมการเมืองพรรคสมัยที่ 13 ได้ประกาศมติที่ 65 ให้เน้นปฏิบัติแนวทางแต่งตั้งผู้บริหารระดับจังหวัดและอำเภอที่ไม่ใช่ชาวท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด
ตั้งแต่ต้นวาระของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 จนถึงปัจจุบัน มีการย้ายเจ้าหน้าที่ส่วนกลางมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคสาขาจังหวัด 40 นาย มีการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการประชาชนระดับจังหวัดที่ไม่ใช่ชาวท้องถิ่น 29 นาย นอกจากนี้ กรมการเมืองพรรคยังย้ายเลขาธิการพรรคสาขาระดับจังหวัดไปรับตำแหน่งใหม่ในระดับส่วนกลาง รองศ.ดร. เลวันเกื่อง รองหัวหน้าสถาบันการสร้างสรรค์พรรคสังกัดสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้เผยว่า
“แนวทางการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานและแต่งตั้งผู้บริหารระดับจังหวัดที่ไม่ใช่ชาวท้องถิ่นได้รับการปฏิบัติในวาระที่ผ่านๆ มา ซึ่งเกิดประสิทธิผลอย่างจริงจัง มีส่วนร่วมปรับปรุงงานด้านบุคลากรในทุกขั้นตอน การย้ายเจ้าหน้าที่มาทำงานในท้องถิ่นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝึกฝนหล่อหลอมตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประชาชนและเรียนรู้งานมากขึ้น อีกทั้งเป็นการวัดผลด้านทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่และช่วยให้เจ้าหน้าที่พัฒนาตนเองมากขึ้น”
ทั้งนี้ การเปลี่ยนย้ายตำแหน่งงานคือแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการต่อยอดการอบรมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆในท้องถิ่น สร้างโอกาสให้เจ้าหน้าที่ฝึกฝนหล่อหลอมและพัฒนาตนเองในทุกด้านอย่างรวดเร็ว อันเป็นปัจจัยก้าวกระโดดในงานด้านบุคลากรของพรรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเพื่ออบรมเจ้าหน้าที่ที่มีความมุ่งมั่นและมีประสบการณ์ปฏิบัติงานในท้องถิ่น.