ปรับปรุงกลไกนโยบายดึงดูดการลงทุนต่างประเทศในสภาวการณ์ใหม่
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWORLD) - ภายหลัง 30 ปีที่ปฏิบัติการดึงดูดและใช้เงินเอฟดีไอ เศรษฐกิจเวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี การดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอคือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนามในระยะต่อไป โดยรัฐบาลเวียดนามผลักดันการปรับปรุงกลไก นโยบายให้มีความสมบูรณ์ สร้างบรรยากาศการลงทุนที่โปร่งใสและน่าสนใจสำหรับนักลงทุน
รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะ ในการประชุมทาบทามความคิดเห็นกำหนดแนวทางปรับปรุงกลไกการลงทุนต่างประเทศให้มีความสมบูรณ์ (หนังสือพิมพ์ประมูล) |
แหล่งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอคือแหล่งพลังที่สำคัญในยอดเงินลงทุนพัฒนาสังคม มีส่วนร่วมเกือบร้อยละ 20 ในยอดจีดีพีของประเทศ ขณะนี้ เอฟดีไอมีส่วนร่วมร้อยละ 70 ของยอดมูลค่าการส่งออกของเวียดนามทุกปีและเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก มีส่วนร่วมต่อการได้เปรียบดุลการค้าของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมา
จนถึงสิ้นปี 2018 ทั่วประเทศมีโครงการที่มียอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอที่กำลังดำเนินงานจาก 130 ประเทศและดินแดนกว่า 2 หมื่น 7 พัน 5 ร้อยแห่ง รวมยอดเงินลงทุนที่ให้ไว้ตามสัญญาคือ 3 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินทุนที่ปฏิบัติอยู่ที่ 1 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
จัดทำยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ให้แก่การดึงดูดเอฟดีไอ
ผลสำเร็จในการดึงดูดเอฟดีไอในเวลาที่ผ่านมามาจากสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ บรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง อัตราการเปิดการค้าอยู่ในระดับสูงและความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของเวียดนาม โดยเฉพาะการที่รัฐบาลเวียดนามเน้นชี้นำการปฏิรูปบรรยากาศการลงทุนอย่างเข้มแข็งได้ส่งผลในเชิงบวกต่อภาคเอฟดีไอและได้รับการชื่นชมจากชมรมนักลงทุน
แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังตระหนักได้ดีว่า ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับนโยบายเพื่อธำรงขีดความสามารถในการแข่งขัน ค้ำประกันความยั่งยืนของแหล่งเงินทุนเอฟดีไอที่ได้รับและผลักดันเอฟดีไอที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ดังนั้นเวียดนามต้องจัดทำแนวทางใหม่ให้แก่การดึงดูดเอฟดีไอ ในการประชุมทาบทามความคิดเห็นกำหนดแนวทางปรับปรุงกลไกเกี่ยวกับการลงทุนต่างประเทศให้มีความสมบูรณ์ในสภาวการณ์ใหม่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ณ จังหวัดบิ่งเยือง รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะได้ย้ำว่า “รัฐบาลมีแนวทางสรุป ประเมิน 30 ปีดึงดูดและใช้เอฟดีไอและจัดทำโครงการเพื่อยื่นสำนักงานที่เกี่ยวข้องวิจัย ถ้าหากคุณภาพของโครงการดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพก็จะอนุมัติมติสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดแนวทาง ปรับปรุงกลไกและนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพการดึงดูดและใช้เอฟดีไอในเวลาที่จะถึง”
ใช้ความได้เปรียบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อดึงดูดเอฟดีไอ
ปัจจุบัน เวียดนามกำลังธำรงรูปแบบการขยายตัวโดยอาศัยทรัพยากร การรับจ้างประกอบ พัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยที่อาศัยการดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอและการส่งออก แต่รูปแบบการขยายตัวนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายใหญ่ๆในสภาวการณ์การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เมื่อหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาแทนแรงงานของมนุษย์ การผลิตและการประดิษฐ์คิดค้นในอนาคตจะกลับมาสู่ประเทศอุตสาหกรรมพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือความท้าทายใหญ่และมีโอกาสไม่น้อย บรรยากาศที่สะดวกให้แก่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 พร้อมกับทักษะและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเวียดนามจะเป็นแรงดึงดูดรูปแบบการลงทุนเอฟดีไอที่มีแนวทางเพิ่มมูลค่าการส่งออก ในการสนทนากับสถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศเมื่อปลายปี 2018 นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เคยยืนยันว่า “เปลี่ยนแปลงใหม่กลไก นโยบายกฎหมายตามแนวทางเศรษฐกิจเชิงตลาดสังคมนิยมของเวียดนามต่อไป พวกเราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของสถานประกอบการเพื่อปรับปรุงนโยบายกฎหมายของประเทศและท้องถิ่นให้ดีขึ้นตามธรรมเนียมปฏิบัติสากล ควบคู่กันนั้นคือผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศหลายฉบับ ซึ่งเป็นบรรยากาศการพัฒนาที่ดีของสถานประกอบการ ไม่เพียงแต่ของสถานประกอบการเวียดนามเท่านั้น หากยังรวมถึงสถานประกอบการระหว่างประเทศที่ลงทุนในเวียดนามอีกด้วย ผมเห็นว่า การปฏิรูปในเบื้องต้นนั้นจะสร้างบรรยากาศที่ดี สร้างความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ให้แก่นักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศเมื่อลงทุนในเวียดนาม”
นอกจากความพยายามสร้างกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดที่ทันสมัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานและธรรมเนียมปฏิบัติให้ดีที่สุด เวียดนามกำลังผลักดันจิตใจแห่งการทำธุรกิจ ส่งเสริมการลงทุนและเปลี่ยนแปลงใหม่ ถ่ายทอดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากร รัฐบาลกำลังปรับปรุงโครงการกลไกและนโยบายให้มีความสมบูรณ์ต่อไป ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพ การใช้เงินทุนเอฟดีไอจนถึงปี 2030 เพื่อรายงานให้กรมการเมืองพิจารณาอนุมัติ มติเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการดึงดูด ใช้เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอได้รับการอนุมัติจะช่วยยกระดับคุณภาพของแหล่งเงินทุนนี้ให้มากขึ้นในเวลาที่จะถึง.
Anh Huyen/VOV5