(PressTV)

ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านใช้เวลาเพียง2วันแทน2สัปดาห์ตามกำหนดเพื่อเสนอรายชื่อคณะรัฐมนตรีโดยมีนักการเมืองเอสฮา จาฮานกีรี เป็นรองประธานาธิบดีคนที่1พร้อมรัฐมนตรี18คนที่ล้วนเป็นผู้ชำนาญวิชาการที่มากไปด้วยประสบการณ์ทางการเมือง ซึ่งนอกจากรองประธานาธิบดีคนที่1ที่เป็นนักการเมืองหัวปฎิรูปแล้วในรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่น่าสนใจครั้งนี้ยังมีนักการทูตอาวุโสโมฮัมเหม็ด จาวาด ซารีฟ ที่เสนอชื่อให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและอดีตรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันไบจาน นามดาร์ ซากาเนห์ที่จะเข้ารับตำแหน่งเดิมในสมัยนี้  ซึ่งประชามติเห็นว่าการตัดสินใจเรื่องสมาชิกรัฐบาลชุดใหม่ของนาย โรฮานี นั้นถือว่ามีความสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยการเลือกผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศก็เป็นการเลือกนักเจรจาด้านนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี5+1(รวมสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสซียและเยอรมนี) ในขณะเดียวกันผู้ที่จะรับหน้าที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันก็เคยเป็นผู้บริหารกระทรวงนี้มานานถึง8ปีในสมัยของประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ดคาตามีและเป็นผู้ที่สนใจต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามกับหุ้นส่วนต่างๆของอิหร่านในองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกและการพัฒนาหน่วยงานพลังงานของประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ดีเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจที่ไม่สามารถพัฒนาไปได้เพราะคำสั่งคว่ำบาตต่างๆของประเทศตะวันตกพร้อมทั้งสถานะของประเทศบนเวทีโลกถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและต้องมีแผนการปฏิบัติที่เหมาะสม  ทางด้านเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปี80ของศตวรรษก่อนที่เศรษฐกิจอิหร่านขยายตัวติดลบ2ปีติดต่อกัน อัตราคนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ13 ควบคู่กันนั้นคืออัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดของภูมิภาคคือประมาณร้อยละ40หรืออาจจะเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลกก็ว่าได้  ซึ่งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรอิหร่านยอมรับว่า ผู้นำคนใหม่ของประเทศได้สืบทอดอำนาจการบริหารประเทศที่มีแต่ตัวเปล่าและอุปสรรค์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อก่อนพิธีสาบานตนของนายโรฮานี สภาล่างสหรัฐได้ผ่านความเห็นชอบร่างรัฐบัญญัติเพิ่มความเข้มงวดมาตรการลงโทษอิหร่านโดยเสนอให้ลดการส่งออกน้ำมันอีก1ล้านบาเรนต์ต่อวันภายในเวลา1ปีเพื่อลดเงินทุนให้แก่โครงการนิวเคลียร์ที่อิหร่านกำลังปฏิบัติ ซึ่งนับเป็นการยืนยันว่ายังมีความแตกต่างด้านทัศนะระหว่างอิหร่าน สหรัฐและประเทศตะวันตก
ควบคู่กับอุปสรรคทางเศรษฐกิจ นายฮัสซันโรฮานียังต้องพยายามผลักดันการเจรจานิวเคลียร์กับกลุ่มพี5+1 ซึ่งก็เป็นวิธีการช่วยผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตต่อประเทศนี้ ในการแถลงครั้งแรกหลังจากประสบชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี นายโรฮานีได้แสดงความเห็นว่ารัฐบาลชุดใหม่จะพยายามปฏิบัติสองก้าวเดินสำคัญในปัญหานิวเคลียร์โดยก่อนอื่นคือเพิ่มความโปร่งใสกิจกรรมนิวเคลียร์ของตนเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมายสากล ต่อจากนั้นจะกระชับความไว้วางใจระหว่างอิหร่านกับประชาคมโลก แต่อย่างไรก็ดีการแสวงหาระเบียบการเพื่อสร้างความไว้วางใจและคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายในเรื่องดังกล่าวมิใช่เรื่องง่ายเพราะทุกความเปลี่ยนแปลงของอิหร่านต่อฝ่ายตะวันตกจะต้องได้รับความเห็นชอบของผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณอาลีคาเมไน ที่มีจุดยืนต่อต้านตะวันตกมาตลอดโดยการยืนยันว่าอิหร่านจะเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ตามเป้าหมายต่อไป