ประเทศรัสเซียกับบทบาทเป็นแกนหลักในการแก้ไขจุดร้อนต่างๆทั่วโลก

(VOVWORLD) - ในสภาวการณ์mujภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนต่อเนื่องและบทบาทของประเทศสหรัฐได้ถูกลดลงในจุดร้อนต่างๆทั่วโลก ประเทศรัสเซีย ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน นับวันมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นในฐานะเป็นคนกลางที่น่าไว้วางใจในปัญหาที่ร้อนระอุต่างๆ
ประเทศรัสเซียกับบทบาทเป็นแกนหลักในการแก้ไขจุดร้อนต่างๆทั่วโลก - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกับประธานาธิบดีรัสเซีย (Photo AFP / VNplus) 

ในหลายวันที่ผ่านมา หนึ่งในกิจกรรมทางการทูตที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชามติโลกคือการพบปะสุดยอดระหว่างรัสเซียกับเยอรมนี ณ กรุงมอสโคว์เนื่องในโอกาสการเยือนประเทศรัสเซียของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังแกลา แมเคล ซึ่งนักวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่น่าสนใจในการพบปะครั้งนี้คือไม่เพียงแต่ช่วยให้ความสัมพันธ์ที่เหินห่างระหว่างฝ่ายตะวันตกกับรัสเซียอบอุ่นมากขึ้นเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมยืนยันบทบาทและสถานะที่นับวันสำคัญมากขึ้นของรัสเซียต่อปัญหาของโลกอีกด้วย ในการเข้าร่วมการพบปะสุดยอดครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เยอรมนี ซึ่งเป็นตัวแทนให้แก่ยุโรปได้แสดงความหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในการแก้ไขปัญหาที่ร้อนระอุของโลก เช่น การธำรงข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน การแก้ไขปัญหาซีเรีย วิกฤตในลิเบีย การปะทะในตะวันออกของยูเครนและโครงการ North stream 2

ความหวังเกี่ยวกับการธำรงข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

หลังจากที่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 สหรัฐได้ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านลงนามกับ 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเยอรมนีหรือเจซีพีโอเอเมื่อปี 2015 และฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ทางการอิหร่านก็ได้มีการเดินหน้าลดการปฏิบัติตามคำมั่นต่างๆ ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงที่เจซีพีโอเอจะถูกทำลาย โดยบรรดาประเทศยุโรป นำโดยอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนีต่างได้มีปฏิบัติการต่างๆเพื่อพยายามหาทางออกให้แก่ข้อตกลงฉบับนี้แต่ก็ยังไม่เห็นผล

ในขณะเดียวกัน รัสเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีในหลายด้านและในปัญหาระดับโลกกับอิหร่าน พร้อมทั้งมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับหลายประเทศในภูมิภาค รวมทั้งหุ้นส่วนและคู่แข่งของอิหร่าน ซึ่งช่วยให้เสียงพูดของรัสเซียมีน้ำหนักมากที่สุดต่ออิหร่านในปัจจุบัน นั่นคือสาเหตุที่หลายประเทศยุโรป รวมทั้งเยอรมนีตั้งใจแสวงหาเสียงสนับสนุนจากรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่ได้หมายถึงว่า รัสเซียจะสามารถค้ำประกันเรื่องอิหร่านจะปฏิบัติข้อตกลงเจซีพีโอเอและข้อตกลงฉบับนี้จะได้รับการปฏิบัติต่อไปหรือไม่เนื่องจากความซับซ้อนของปัญหาและสภาวการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านซึ่งยากจะคาดเดาได้ในปัจจุบัน

มีบทบาทสำคัญต่อวิกฤตในซีเรียและปัญหาลิเบีย

นอกจากปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน รัสเซียนับวันยิ่งยืนยันบทบาทของตนในปัญหาอื่นๆในตะวันออกกลางอีกด้วย ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือวิกฤตในซีเรีย โดยนับตั้งแต่เข้าแทรกแซงซีเรียเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 รัสเซียได้ช่วยรัฐบาลที่ชอบธรรมในซีเรียเสริมสร้างสถานะและความเข้มแข็งเพื่อรับมือกับการปั่นป่วนของกองกำลังลูกขึ้นสู้ที่มีการหนุนหลังจากภายนอก ตลอดจนสามารถขจัดการขยายอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส และในขณะที่บทบาทของสหรัฐในซีเรียนับวันลดลง โดยเฉพาะหลังจากที่วอชิงตันตัดสินใจถอนทหารออกจากภาคเหนือของซีเรียเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 ได้ทำให้รัสเซียยิ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยล่าสุด รัสเซียและตุรกีได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่สำคัญในจังหวัด Idlib ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา

สำหรับวิกฤตในลิเบีย รัสเซียและตุรกีกำลังพยายามผลักดันให้ทุกฝ่ายบรรลุคำสั่งหยุดยิงเพื่อเปิดโอกาสยุติการปะทะที่รุนแรงนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนปี 2019 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนับพันคน และผู้คนอีกกว่า 3 แสนคนต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่ออพยพ ในปัญหาของลิเบีย แม้รัสเซียและตุรกีจะมีบทบาทแตกต่างกันแต่ทั้งสองประเทศต่างมีอิทธิพลที่เข้มแข็ง โดยแม้ไม่เข้าแทรกแซงโดยตรงในประเทศลิเบียเหมือนตุรกีแต่ฝ่ายที่นิยมรัสเซียได้สนับสนุนกองกำลังทหารภาคตะวันออกหรือแอลเอ็นเอที่นำโดยนายพล Khalifa Haftar ที่ต่อต้านกองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลสามัคคีประชาชาติลิเบียหรือจีเอ็นเอที่ตุรกีให้การสนับสนุน ปัจจุบัน การพบปะระหว่างตัวแทนระดับสูงของสองกองกำลังดังกล่าว ณ กรุงมอสโคว์กำลังได้รับการดำเนินการ

นอกจากจุดร้อนต่างๆในตะวันออกกลาง รัสเซียยังมีบทบาทสำคัญในการปรับความมีเสถียรภาพและยุติการปะทะในภาคตะวันออกของยูเครน โดยเมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อความสำเร็จของการประชุมสุดยอดของกลุ่มสี่ฝ่ายนอมังดีเกี่ยวกับยูเครน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการบรรลุความเห็นพ้องในปัญหาต่างๆ

ก่อนการเยือนประเทศรัสเซียของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมเคล นักการเมืองเยอรมนีหลายคนได้ประเมินว่า รัสเซียมีบทบาทสำคัญในการแสวงหามาตรการแก้ไขให้แก่วิกฤตต่างๆในทั่วโลก โดยนาย Omid Nouripour นักการเมืองที่ดูแลนโยบายการต่างประเทศของพรรค Green ได้ยืนยันว่า ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน คือผู้นำที่มีอิทธิพลมาก แม้จะในปัญหาตะวันออกกลาง ปัญหาลิเบียหรือในปัญหาที่ภาคตะวันออกของยูเครนก็ตาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด