ผู้แทนสภาแห่งชาติเสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

(VOVWORLD) - การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 15 กำลังมีขึ้น ณ กรุงฮานอย นี่คือการประชุมนัดสำคัญในช่วงกลางปี 2024 ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายของการปฏิบัติโครงการสำคัญๆ และปัญหาเศรษฐกิจมหภาคและสังคมที่ต้องได้รับการอนุมัติ นอกรอบการประชุม บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการเพื่อแก้ไขอุปสรรคของเศรษฐกิจ และกระบวนการอนุมัตินโยบายในระยะยาวเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้วางไว้
ผู้แทนสภาแห่งชาติเสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ - ảnh 1การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 15

บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติแสดงความเห็นว่า ถึงแม้ว่าในช่วงเดือนแรกของปีนี้ ดัชนีของเศรษฐกิจเวียดนามได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงต้องเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายมากมาย การที่รัฐบาลกำหนด 11 หน้าที่และมาตรการหลักในเวลาที่จะถึงถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องและต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

เน้นถึงมาตรการที่สำคัญเป็นก้าวกระโดด

ตามรายงานของรัฐบาล การขยายตัวจีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา นโยบายการเงินได้รับการปฏิบัติอย่างคล่องตัว การเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐจนถึงวันที่ 30 เมษายนบรรลุกว่าร้อยละ 17.4 ตามแผนการที่วางไว้ สูงที่สุดในรอบ 4 ปี การผลิตการเกษตรมีการเติบโตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัว

แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองของโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่องานด้านการชี้นำบริหาร ดังนั้น การที่รัฐบาลเน้นถึง 11 หน้าที่และมาตรการหลักได้รับการชื่นชมและการสนับสนุนจากบรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติ นาย เหงียนจูโห่ย ผู้แทนสภาแห่งชาตินครไฮฟองได้เห็นพ้องกับมาตรการที่รัฐบาลเสนอคือเน้นพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง ควบคู่กับการส่งเสริมการวิจัย การพัฒนาและการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นาย เหงียนจูโห่ย แสดงความเห็นว่า

“ในทุกด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะต้องเดินหน้า ผมไม่เคยเห็นบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ชัดเจนเท่าทุกวันนี้ จนถึงขณะนี้ ถ้าหากเราไม่ให้ความสำคัญต่อบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างก้าวกระโดด ก็จะเป็นสิ่งที่ผิดพลาด บทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความผูกพันกับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์และการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นถ้าหากเราอยากเปลี่ยนแปลงคุณภาพทรัพยากรมนุษย์และมีเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นเอง เราจะต้องมีการเตรียมการและเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเคร่งครัดและครอบคลุม”

นอกจากการเน้นพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงควบคู่กับการส่งเสริมการวิจัย การพัฒนาและการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว อีกหนึ่งมาตรการที่รัฐบาลวางแผนที่จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในปีนี้คือการส่งเสริมการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ โดยใช้การลงทุนภาครัฐเพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน นาย หว่างวันกง ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้ระบุว่า

“ถ้าหากเราปฏิบัติการลงทุนภาครัฐเป็นอย่างดี ผมคิดว่าจะส่งผลดีต่อทั้งสองด้าน 1 คือ จะช่วยเพิ่มความต้องการโดยรวมผ่านการลงทุนภาครัฐ 2 คือจำนวนเงินส่วนเกิน ดังนั้น การเพิ่มการลงทุนภาครัฐและการออกพันธบัตรจึงไม่ต้องกลัวว่าจะไปแข่งขันกับสถานประกอบการ ผมคิดว่า เราต้องพิจารณาการลงทุนภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมด้วย ไม่ใช่แค่การคมนาคม เช่น การศึกษาและสาธารณสุข โดยเฉพาะ ปัจจุบันเวียดนามกำลังดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในรูปแบบบการลงทุนใหม่ ในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์ เราต้องเตรียมพร้อมบุคลากรเป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งนี้ต้องมีการลงทุนจากภาครัฐเพื่อสร้างการพัฒนาที่เป็นก้าวกระโดดเกี่ยวกับคุณภาพบุคลากร”

การผลักดันการบริหารจัดการทรัพยากรและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การป้องกันและรับมือภัยธรรมชาติ การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การค้ำประกันความมั่นคงของแหล่งน้ำ การจัดทำโครงการแบบบูรณาการเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำและสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำก็เป็นกลุ่มมาตรการที่ผู้แทนสภาแห่งชาติให้ความสนใจและมีความประสงค์ให้รัฐบาลแก้ไข นาย เหงียนจุ๊กเซิน หัวหน้าคณะผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเบ๊นแจได้แสดงความเห็นว่า

“ปัญหาที่เราได้รับการร้องเรียนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นอย่างมากคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งและน้ำเค็มที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน รัฐบาล กระทรวง ส่วนกลางและทางการปกครองท้องถิ่นต้องมีมาตรการเฉพาะหน้าและในระยะยาวเพื่อค้ำประกันแหล่งน้ำสะอาดเพื่อสนับสนุนการผลิตและการดำรงชีวิตของประชาชน”

ผู้แทนสภาแห่งชาติเสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ - ảnh 2นาย หว่างวันกง ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอย (daibieunhandan.vn)

การตั้งความหวังต่อนโยบายต่างๆ

ในภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามปี 2023 และในช่วงเดือนแรกของปีนี้ เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี โดยการขยายตัว GDP ในไตรมาสแรกของปี 2024 อยู่ที่ร้อยละ 5.66 ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI เฉลี่ย 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยบะ 3.93 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ยอดเงินทุน FDI ที่จดทะเบียนบรรลุ 9.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 กลุ่มบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งได้ให้คำมั่นที่จะลงทุนในเวียดนามในด้านอิเล็กทรอนิกส์ ไมโครชิพ เซมิคอนดักเตอร์และพลังงานทดแทน นี่เป็นความพยายามและความมุ่งมั่นในระดับสูงของรัฐ สถานประกอบการและประชาชนในสภาวการณ์ที่ยังคงมีความยากลำบากและความท้าทายมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีมาตรการแก้ไขที่เร่งด่วนและในระยะยาวเพื่อค้ำประกันว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะพัฒนายั่งยืนมากขึ้น เพิ่มความเป็นอิสระและการพึ่งตนเองในเวลาที่จะมาถึง นาย จิ่งซวนอาน ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดด่งนายได้ย้ำว่า

“ผมคิดว่า เราได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี แต่ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและเป็นรูปธรรมต่อไป การประชุมครั้งที่ 7 คือการประชุมกลางปี ปี2024 ถือเป็นปีสำคัญก่อนเข้าสู่ปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงใกล้สิ้นสุดสมัย ซึ่งได้รับการถือว่า เป็นปีสุดท้ายของการปฏิบัติโครงการสำคัญๆ ปัญหาเศรษฐกิจมหภาคและสังคมกำลังรอมาตรการแก้ไขและข้อเสนอในการประชุมนี้ ความคิดเห็นและการตัดสินใจในการประชุมครั้งนี้ส่งผลเป็นอย่างมากต่อการบริหารประเทศ”

บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติยังเชื่อมั่นว่า ด้วยความพยายามเป็นอย่างมากและความมุ่งมั่นในระดับสูง รัฐบาลจะยังคงส่งเสริมผลงานที่ได้บรรลุและฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2024 และในช่วงปี 2021-2025 ในระดับสูงสุด.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด