(VOVWORLD) - การสังหารผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาสในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากำลังทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางตกเข้าสู่ความรุนแรงครั้งใหม่ ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะครั้งใหญ่ในภูมิภาคนี้กำลังอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่หลายเดือนมานี้
นาย อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาส (France 24) |
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นาย อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาสถูกสังหารในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ก่อนหน้านั้น เมื่อค่ำวันที่ 30 กรกฎาคม นาย ฟูอัด ชูการ์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนก็ถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลในกรุงเบรุตเพื่อตอบโต้ที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล 12 คนถูกสังหารด้วยปืนใหญ่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมในเขตที่ราบสูงโกลาน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกำลังทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางร้อนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เพิ่มความเสี่ยงเกิดการเผชิญหน้าในทุกด้านระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล
นาย อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาสถูกสังหารในขณะอยู่ในอิหร่านเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่อิหร่านของนาย มาซูด เปเซชเคียน ถึงแม้ว่ารัฐบาลอิสราเอลไม่แสดงความเห็นหรือออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ แต่ตามความเห็นของบรรผู้สังเกตการณ์ การสังหารผู้นำทางการเมืองสูงสุดของกลุ่มฮามาสได้สร้างจุดเปลี่ยนให้แก่วิกฤตการณ์ปัจจุบันในตะวันออกกลาง โดยนอกจากทำให้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสรุนแรงขึ้นแล้ว เหตุการณ์นี้ยังทำให้โอกาสที่จะเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านมีมากขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นาย คาเมเนย ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณของอิหร่านและนาย มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่านต่างก็ประกาศว่า จะตอบโต้ในวงกว้างโดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ที่มุ่งเป้าไปยังอิสราเอล
ตามความเห็นของนาย ยอสซี เมเคลเบิร์ก นักวิเคราะห์จาก Chatham House ทางการอิหร่านกำลังตกเข้าสู่ภาวะที่ถูกบังคับให้ต้องหาทางรักษาสถานะและความสามารถในการป้องปรามในภูมิภาค คำถามที่วางไว้คือ การตอบโต้ของอิหร่านและกองกำลังพันธมิตรในภูมิภาคจะดำเนินไปในระดับไหน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การโจมตีอาคารสถานทูตอิหร่านประจำซีเรียซึ่งทำให้นายพลระดับสูงของอิหร่านเสียชีวิต อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธกว่า 300 ลูกและระดมเครื่องบินไร้คนขับหลายลำโจมตีดินแดนของอิสราเอลโดยตรงเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ แต่อย่างไรก็ตาม อิหร่านได้ประกาศการโจมตีดังกล่าวล่วงหน้าหลายวัน และได้รับการถือว่า มีการคำนวณอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการจุดชนวนการปะทะโดยตรงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล นาย ยอสซี เมเคลเบิร์ก แสดงความเห็นว่า การตอบโต้ของอิหร่านและพันธมิตรในครั้งนี้อาจคาดเดาได้ยากขึ้นกว่าเดิม และความเสี่ยงที่การปะทะจะบานปลายก็สูงขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะในช่วงเวลาเดียวกัน อิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนก็กำลังเข้าใกล้สงครามเต็มรูปแบบเช่นกัน สำหรับความเห็นนี้ นาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ยอมรับว่า เขาไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อความมั่นคงในตะวันออกกลางได้
“สิ่งที่เร่งด่วนในปัจจุบันคือ ทุกฝ่ายจะต้องมีการตัดสินใจอย่างถูกต้องในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะทางเลือกเหล่านี้คือความแตกต่างระหว่างการเดินหน้าสู่การใช้ความรุนแรง ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมาน หรือการก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ในความเป็นจริง ผมไม่สามารถคาดเดาผลที่ตามมาและผลกระทบของเหตุการณ์ล่าสุดต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้”
ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการปะทะขนาดใหญ่ในตะวันออกกลางเท่านั้น หากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในปัจจุบันก็อาจทำให้พันธมิตรของอิสราเอลเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกด้วย ที่สหรัฐ สส. ที่มีทัศนะที่แข็งกร้าวบางนายกำลังเรียกร้องให้ทางการสหรัฐเตรียมแผนการแทรกแซงทางทหารในตะวันออกกลางถ้าหากเกิดการปะทะครั้งใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านและกองกำลังของกลุ่มต่าง ๆ ในภูมิภาค
นาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ (Reuters) |
ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาจะเสร็จสิ้นลง?
นอกจากความเสี่ยงที่การปะทะจะบานปลายในทุกด้านในภูมิภาคแล้ว ความรุนแรงในปัจจุบัน โดยเฉพาะ การสังหารผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานีเยห์ ยังทำให้โอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการแลกเปลี่ยนตัวประกันในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมีความเปราะบางมากขึ้น ก่อนช่วงเกิดการสังหารดังกล่าว การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสผ่านการไกล่เกลี่ยของกาตาร์ อียิปต์และสหรัฐได้ตกเข้าสู่ภาวะหยุดชะงักมาเป็นเวลาหลายเดือน และเพิ่งได้รับการฟื้นฟูเมื่อเจ้าหน้าที่ของทุกฝ่ายพยายามฟื้นฟูการติดต่อกัน ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ แต่อย่างไรก็ตาม การสังหารนาย อิสมาอิล ฮานิเยห์ อาจทำให้ความพยายามเหล่านั้นยุติลง ผู้เชี่ยวชาญ Sanam Vakil ผู้อำนวยการโครงการศึกษาตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่ Chatham House แสดงความเห็นว่า
“การสังหารนาย อิสมาอิล ฮานิเยห์ จะส่งผลกระทบในทางลบต่อการเจรจาหยุดยิงในช่วงนี้แน่นอน เมื่อทั้งสองฝ่ายจะกลับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดและความไร้เสถียรภาพ ผมไม่เห็นถึงมาตรการในระยะยาวที่มีความหมายใดๆ ในอนาคตอันใกล้นี้”
ตามการวิเคราะห์ของนาง Sanam Vakil การเคลื่อนไหวล่าสุดของฝ่ายอิสราเอลได้แสดงให้เห็นว่า ผู้นำอิสราเอลกำลังเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะ การเปลี่ยนจากการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการเร่งปฏิบัติการมาเป็นการรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงในวงกว้างมากขึ้นในภูมิภาค โดยอิหร่านเป็นเป้าหลัก แทนการระดมความพยายามเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา การเปลี่ยนแปลงนี้บังคับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตในตะวันออกกลางต้องมีวิธีการเข้าถึงอื่น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพันธมิตรตะวันตกของอิสราเอล การที่สหรัฐทำการโจมตีใส่กองกำลังที่สนับสนุนอิหร่านในอิรักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ทางการสหรัฐอยากแสดงท่าทีป้องปรามต่อฝ่ายต่างๆที่อยากทำให้ การปะทะทวีความรุนแรงขึ้น ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นาย จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐยังแสดงความเห็นว่า การปะทะที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในตะวันออกกลางไม่ใช่สิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” และทางการสหรัฐกำลังใช้มาตรการทางการทูตและการทหารแบบรอบด้านเพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้เกิดขึ้นจริง.