การแถลงข่าวผลการประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 1 สมัยที่ 15

ประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 1 ได้พิจารณาและตัดสินใจปัญหาสำคัญๆ และเร่งด่วนเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม การเงิน และงบประมาณ เพื่อสนับสนุนโครงการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 และโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอย่างเร่งด่วน

มีความหมายสำหรับตลอดช่วงปี 2021-2025

มติเกี่ยวกับนโยบายงบประมาณและการเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามโครงการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่สภาแห่งชาติอนุมัติในพิธีปิดการประชุมมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 การแก้ไขผลเสียหาย การฟื้นฟูและการพัฒนาสังคม -เศรษฐกิจ การฟื้นฟูตลาดแรงงาน การแก้ไขปัญหาสวัสดิการสังคม นี่เป็นนโยบายเสริม นอกเหนือจากกรอบนโยบายการคลังและการเงินที่สภาแห่งชาติระบุในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แผนการเงิน แผนการกู้ยืมและชำระหนี้สาธารณะ แผนการลงทุนภาครัฐระยะกลาง 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025

โครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม มูลค่า 3แสน5หมื่นล้านด่งจะช่วยให้รัฐบาลเป็นฝ่ายรุกในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และให้การสนับสนุนอย่างทันท่วงทีเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โครงการได้รับการปฏิบัติส่วนใหญ่ในช่วงปี 2022-2023 โดยเน้นในด้านสาธารณสุข การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สวัสดิการสังคม แรงงานและงานทำ การช่วยเหลือสถานประกอบการ สหกรณ์ ธุรกิจครัวเรือน การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการแก้ไขผลกระทบจากภัยพิบัติ

ที่น่าสนใจคือ เพื่อปฏิบัตินโยบายงบประมาณและการเงินอย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.5-7 และเป้าหมายทางเศรษฐกิจ –สังคมในช่วงป 2021-2025 สภาแห่งชาติได้อนุมัติให้ใช้กลไกและนโยบายเฉพาะเกี่ยวกับการคัดเลือกนักลงทุนและการกระจายอำนาจสำหรับโครงการสำคัญระดับชาติ โครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ และโครงการขนาดใหญ่ในด้านการขนส่งและสาธารณสุข เพื่อมีแหล่งพลังปฏิบัตินโยบายงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สภาแห่งชาติได้เห็นชอบให้มีการเพิ่มรายจ่ายงบประมาณในช่วงปี 2022 ถึงปี 2023 เฉลี่ยร้อยละ 1-1.2 ของจีดีพีต่อปี สูงสุด 240 ล้านล้านด่ง

สภาแห่งชาติยังกำหนดว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมเป็นหน้าที่สำคัญพิเศษ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การปฏิบัติโครงการก่อสร้างทางด่วนเหนือข-ใต้ทางทิศตะวันออกในช่วงปี 2021-2025  จะช่วยผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ มีส่วนร่วมฟื้นฟูและเพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจ สามารถขยายผลและ เสริมสร้างการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจ ดังนั้น สภาแห่งชาติจึงได้สงวนเวลาเป็นพิเศษเพื่ออภิปรายและแสดงความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นของการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับโครงการเชิงยุทธศาสตร์ แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การวางผังที่เกี่ยวข้อง ขอบเขตและขนาดของโครงการ การเลือกเทคโนโลยีและแผนการเวนคืนที่ดิน การตั้งถิ่นฐานใหม่ รูปแบบของการลงทุน ยอดเงินลงทุน  แหล่งเงินทุนและการยึดคืนเงินลงทุน แผนการกำหนดโครงการที่เกี่ยวข้องและกระบวนการเสร็จสิ้น ตลอดจนกลไกและนโยบายเฉพาะสำหรับการดำเนินโครงการลงทุน ในการประเมินผลการประชุม นาย ดั่งก๊วกหิว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมืองเอียนบ๊ายเผยว่า

“การประชุมได้ประสบความสำเร็จและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจของสภาแห่งชาติในการประชุมครั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งยังเชื่อมั่นและตั้งความหวังต่อการพัฒนาของประเทศในเวลาที่จะถึงในสภาวการณ์ที่โรคระบาดได้รับการควบคุม อาจกล่าวได้ว่า การประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 1 ได้แก้ไขอุปสรรคที่เกิดขึ้นเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ”

ส่งเสริมภูมิปัญญาของหมู่คณะ

นับเป็นครั้งแรกที่สภาแห่งชาติจัดประชุมวิสามัญเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่ภายใต้การบริหารอย่างทันท่วงทีเพื่อตอบสนองความต้องการที่เร่งด่วนของประเทศ สถานประกอบการ และชีวิตคววามเป็นอยู่ของประชาชน แม้การประชุมสภาแห่งชาติครั้งนี้จะเป็นการประชุมออนไลน์ แต่ผู้แทนสภาแห่งชาติจาก 63 จังหวัดและนครทั่วประเทศก็ได้เข้าร่วม อภิปรายและแสดงความคิดเห็นอย่างเข้มแข็งเพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ และมีข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรม หลังการอภิปรายออนไลน์และการหารือตามหน่วย สำนักงานของสภาแห่งชาติ รัฐบาลและสำนักงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรวบรวม ชี้แจงอย่างสมบูรณ์และเคร่งครัดต่อความคิดเห็นของผู้แทนสภาแห่งชาติเพื่อเสนอร่างรายงานฉบับสุดท้ายให้สภาแห่งชาติอนุมัติ เลขาธิการสภาแห่งชาติ บุ่ยวันเกื่อง ได้แสดงความเห็นว่า

 “นี่เป็นการพิสูจน์ที่ชัดเจนสำหรับวาระสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 เราเปลี่ยนแปลงใหม่ ตอบสนองความต้องการพัฒนาของประเทศและค้ำประกันการนำของพรรคในกลไก แนวทาง มติของพรรค”

ผลการประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 1 แสดงให้เห็นถึงแง่บวก ความคิดริเริ่มและความรับผิดชอบสูงของสภาแห่งชาติต่อสถานการณ์ที่เป็นจริงของประเทศ ความปรารถนาของประชาชน สถานประกอบการ การประสานงานอย่างใกล้ชิดของรัฐบาลและการประสานงานเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆของสำนักงานของสภาแห่งชาติเพื่อเตรียมจัดการประชุม อีกทั้งยืนยันว่า สภาแห่งชาติและรัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนเสมอ พยายามมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงใหม่และสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ทันการณ์และมีประสิทธิภาพ เพื่อมีส่วนร่วมฟื้นฟูพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19./.