มติที่ 13 ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการเริ่มมีประสิทธิภาพ

(VOVworld) - มติที่ 13 ของรัฐบาลเกี่ยวกับการใช้วงเงิน 29 ล้านล้านด่งหรือ 9 แสน 6 หมื่นล้านบาทเพื่อปฏิบัติมาตรการแก้ไขโดยการลดดอกเบี้ย การขยายระยะเวลาเสียภาษีและการลดภาษีได้ช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบ การในปัจจุบัน
            (VOVworld) - มติที่ 13 ของรัฐบาลเกี่ยวกับการใช้วงเงิน 29 ล้านล้านด่งหรือ 9 แสน 6 หมื่นล้านบาทเพื่อปฏิบัติมาตรการแก้ไขโดยการลดดอกเบี้ย การขยายระยะเวลาเสียภาษีและการลดภาษีได้ช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการในปัจจุบัน

           

มติที่ 13 ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการเริ่มมีประสิทธิภาพ - ảnh 1
เพดานดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่องโดยลดลงเหลือร้อยละ 9 (Internet)

ตามมติที่ 13 ของรัฐบาล ธนาคารต่างๆในระบบได้ประกาศระเบียบและนโยบายให้การช่วยเหลือสถานประกอบการและตลาดโดยในไตรมาสที่สองของปี 2012 ธนาคารชาติเวียดนามได้ประกาศปรับลดเพดานดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่องโดยลดลงเหลือร้อยละ 9 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้เหลือร้อยละ 15-16 ภาษีเงินได้นิติบุคคลของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเหลือร้อยละ 30 และค่าเช่าที่ดินปี 2012ก็ลดลงร้อยละ 50   นาย Vũ Nhữ Thăng หัวหน้าสถาบันยุทธศาสตร์และนโยบายการเงินเผยว่า วงเงินช่วยเหลือดังกล่าวเน้นในด้านภาษี  ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงการประสานระหว่างนโยบายเศรษฐกิจต่างๆของรัฐและรัฐบาลเวียดนามอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะนโยบายงบประมาณและนโยบายการเงิน  ถ้าหากยังคงรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพเช่นนี้ได้ต่อไป ก็อาจจะมีการลดดอกเบี้ยอีก ซึ่งจะช่วยให้สถานประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ลดต้นทุนการผลิต ยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตและประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ  ถ้าหากเปรียบเทียบกับในเวลาที่ผ่านมา ผลสำเร็จดังกล่าวยังคงไม่มากนักแต่ในปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่มีสถานประกอบการล้มละลายเนื่องจากการขาดเงินทุนและเป็นหนี้ธนาคาร ในการเสวนาภายใต้หัวข้อ “มติที่ 13 และโครงการปฏิรูประบบเศรษฐกิจของรัฐบาล - ผลกระทบในหลายด้านและการวางแนวทางให้สถานประกอบการในช่วงปลายปี 2012 และปีต่อๆไป” ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา นาย Nguyễn Trọng Kiên รองผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วน Thạch Bàn ได้เผยว่า ถึงแม้ว่า วงเงินช่วยเหลือด้านภาษีจะมีผลโดยตรงไม่มากนักต่อสถานประกอบการแต่เมื่อมองในภาพรวมแล้วสถานประกอบการจำนวนมากและเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับอนิสงค์จากมติดังกล่าว             “การใช้วงเงินดังกล่าวมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง แต่พวกเราให้ความสนใจมากกว่าต่อการช่วยเหลืออื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าว  อย่างเช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ในความเป็นจริง การประกอบธุรกิจของสถานประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีกำไร ดังนั้นเรากำลังตั้งความหวังในอัตราดอกเบี้ยและภาษีมูลค่าเพิ่มอาจจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 5 หรือในบางผลิตภัณฑ์เป็นร้อยละ 0 เราถึงจะได้ประโยชน์มาก

มติที่ 13 ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการเริ่มมีประสิทธิภาพ - ảnh 2
บริษัทวัสดุก่อสร้างตั้งความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ย (Internet)

ในกลุ่มมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการขยายระยะเวลาการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งก็เหมือนกับการให้สถานประกอบการกู้เงินด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 0 ภายในเวลา 6 เดือนเพื่อให้มีเงินทุนดำเนินกิจการ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า นับเป็นมาตรการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน   นาย Đỗ Đức Oanh เลขาธิการสมาพันธุ์ปูนซีเมนต์เวียดนามเห็นว่า การปฏิบัติมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวได้เอื้อประโยชน์แก่สถานประกอบการปูนซีเมนต์เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ได้กู้เงินด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 เท่านั้น หากยังได้ขยายระยะเวลาการเสียภาษีอีกด้วย ซึ่งช่วยลดอุปสรรคในด้านเงินทุนและการจำหน่ายสินค้า  นาย Nguyễn Đức Kiên รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของรัฐสภาเวียดนามเผยว่า แม้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารจะลดลง แต่สถานประกอบการยังต้องร่างยุทธศาสตร์การใช้เงินกู้ให้มีประสิทธิภาพที่สุดต่อไป             “สถานประกอบการแต่ละแห่งต้องร่างยุทธศาสตร์การใช้เงินกู้ให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะต้องเจาะและมีแนวทางพัฒนาตลาดให้ถูกต้อง กระทัดรัดสอดคล้องกับสภาวะการณ์การผลิตถูกลดลงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
 ผลการสำรวจของบริษัท Vietnam Report เมื่อเร็วๆนี้ปรากฏว่า ในกลุ่มมาตรการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 12 กลุ่มที่ถูกระบุในโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจเวียดนามที่ยื่นต่อรัฐสภานั้น โดยเฉพาะมติที่ 13 ของรัฐบาลเกี่ยวกับการใช้มาตรการแก้ไขเพื่อช่วยลดอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและสามารถตอบสนองความต้องการในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ ซึ่งถึงแม้ยังมีผลสำเร็จไม่มากนักแต่ได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัว ทันการณ์ การประสานงานและความรับผิดชอบของรัฐต่อสถานประกอบการ ช่วยลดภาระทางการเงิน ดอกเบี้ยและระเบียบการ ตลอดจนเป็นพลังขับเคลื่อนให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด