ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นเพื่อความผาสุก

(VOVWORLD) -แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2021 ถึงปี 2025 ที่ยื่นเสนอต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้ระบุว่า จำเป็นต้องยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ค้ำประกันการเชื่อมโยงอย่างกลมกลืนระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับสังคม ซึ่งประเด็นใหม่ในเอกสารฉบับนี้คือ “ความปรารถนาเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและผาสุก” โดยย้ำเป็นพิเศษถึงเรื่อง “ความสุข”ของประชาชน
ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นเพื่อความผาสุก - ảnh 1นาย  เวืองดิ่งเหวะ เลขาธิการพรรคสาขากรุงฮานอย กล่าวปราศรัยในการประชุมใหญ่พรรคสาขากรุงฮานอยครั้งที่ 17 (Photo kinhtedothi.vn)

เวียดนามมีก้าวพัฒนาอย่างข้ามขั้นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่เสร็จสิ้นเป้าหมายสหัสวรรษเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนก่อนกำหนดถึง 10 ปี  ในการประชุมพรรคสาขาทุกระดับทั่วประเทศในปี 2020 ถึงแม้มีวิธีการเข้าถึงแตกต่างกันแต่ท้องถิ่นต่างๆได้ตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นผ่านดัชนีความสุขของประชาชน ประกอบด้วย รายได้ การเข้าถึงบริการสังคมและชีวิตทางจิตใจ

แปรดัชนีความสุขให้เป็นความจริง

แม้เป็นจังหวัดเขตเขาที่เศรษฐกิจประสบอุปสรรคมากมายและประชาชนมีความรู้น้อยแต่ในการประชุมใหญ่พรรคสาขาจังหวัดเอียนบ๊ายครั้งที่ 19 วาระปี 2020-2025 ทางคณะกรรมการพรรคสาขาจังหวัดเอียนบ๊ายได้ระบุ “ดัชนีความสุข”ในมติของการประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีมาตรฐานต่างๆ เช่น ความพึงพอใจของประชาชนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ที่อยู่อาศัยและอายุขัย สำหรับเป้าหมายนี้ นาง เหงียนเงินยาง รองเลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดเอียนบ๊ายและประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลบ๊าวด๊าบ อำเภอเฉิ๊นเอียนและนาง เหงียนถิมิงห์ดึ๊ก สมาชิกพรรคในนครเอียนบ๊าย จังหวัดเอียนบ๊ายแสดงความคิดเห็นว่า

“นี่คือดัชนีที่รอบด้าน ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและด้านอื่นๆ ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างมากที่เห็นว่า ทางการจังหวัดฯให้ความดูแลเอาใจใส่ต่อประชาชนทุกคนในท้องถิ่น”

“นี่คือแนวทางและนโยบายที่เข้าถึงแนวโน้มใหม่ ซึ่งพยายามให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด จนเห็นว่า ชีวิตกำลังดีขึ้น ส่วนดิฉันเองก็ต้องพยายามทำให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวมีความสุขจริงๆ ถึงจะสามารถนำความสุขไปให้แก่คนอื่นได้”

การประชุมใหญ่พรรคสาขากรุงฮานอยครั้งที่ 17 ได้ย้ำถึงเป้าหมาย วาระปี 2020-2025 จะพัฒนาวัฒนธรรม ค้ำประกันสวัสดิการสังคม ยกระดับสวัสดิการสังคมและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยพยายามถึงปี 2025 อายุขัยเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 76.5 ปี เน้นดูแลและปกป้องเด็ก พัฒนาระบบสวัสดิการสังคมอย่างรอบด้าน มุ่งสู่เป้าหมายให้ประชาชนทุกคนมีประกันสุขภาพ เพิ่มจำนวนผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบาย โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข การฝึกสอนอาชีพ การช่วยเหลือด้านกฎหมายและที่อยู่อาศัย เป็นต้น นาย เวืองดิ่งเหวะ เลขาธิการพรรคสาขากรุงฮานอยได้กำชับว่า “ทางนครฯ มีแผนให้ความร่วมมือก่อสร้างหอวัฒนธรรมมูลค่า 2.5 พันล้านด่งให้แก่เขตและอำเภอต่างๆ ส่วนทุกอำเภอต้องพยายามแก้ไขปัญหาไม่มีสวนสาธารณะในชุมชนให้ได้ภายในปี 2021 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สวนสาธารณะ”

ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นเพื่อความผาสุก - ảnh 2นาย บุ่ยสีเหล่ย รองหัวหน้าคณะกรรมการดูแลปัญหาต่างๆในสังคมของสภาแห่งชาติ (Photo sggp.org.vn)

ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เพื่อให้เวียดนามมีก้าวพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้นด้วยเป้าหมายและวิสัยทัศน์พัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 มติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ได้ย้ำถึงเรื่อง “ความสุข” ของประชาชน นาย บุ่ยสีเหล่ย รองหัวหน้าคณะกรรมการดูแลปัญหาต่างๆในสังคมของสภาแห่งชาติได้แสดงความคิดเห็นว่า            “เป้าหมายคือต้องสร้างสรรค์สังคมให้เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข นั่นคือค้ำประกันความยุติธรรมในสังคมและในรัฐธรรมนูญของเราก็ได้ระบุถึงประเด็นที่ต้องค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง ดังนั้นการสร้างสรรค์ประเทศให้รุ่งเรืองคือเป้าหมายของความยุติธรรมและความก้าวหน้าในสังคม นั่นคือเป้าหมายขั้นพื้นฐาน”

ส่วนศ.ดร. ฝุ่งหิวฟู๊ รองประธานสภาทฤษฎีส่วนกลางได้ยืนยันว่า            “การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ช่วยให้เราตระหนักว่า ใช่ว่าการมีเงินเยอะหรือเศรษฐกิจดีจะทำให้มีความสุขเสมอไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตที่สันติและความผาสุก ดังนั้น ความสุขก็คือความเป็นมนุษย์”

คุณภาพของชีวิตครอบคลุมทั้งด้านวัตถุและจิตใจ ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความสุข ข่าวที่น่ายินดีสำหรับประชาชนเวียดนามคือ รายงานเกี่ยวกับการพัฒนาของมนุษย์ในทั่วโลกปี 2020 ที่จัดทำโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้ปรากฎว่า เวียดนามติดกลุ่มประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ในระดับสูงของโลก ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนให้เวียดนามแปรมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ให้เข้าสู่ชีวิตเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พัฒนามนุษย์อย่างสมบูรณ์และไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด