(VOVWORLD) - ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดนามหลายคนได้เดินทางไปเยือนและพบปะกับหุ้นส่วนต่างๆในยุโรปและทวีปอเมริกา โดยนอกจากวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการเมือง นี่ยังเป็นโอกาสผลักดันการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆและเปิดโอกาสการพัฒนาใหม่ให้แก่ทุกฝ่าย
นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามกับนาง เซซิเลียมัลสตรอมข้าหลวงใหญ่การค้าอียู (VNA) |
ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม นาย ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เดินทางไปเยือนกรีซและบัลแกเรีย ในขณะที่นาย เวืองดิ่งเหวะ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำการผสมผสานด้านเศรษฐกิจได้เดินทางไปเยือนสหรัฐในระหว่างวันที่ 25 - 27 มิถุนายนและเยือนประเทศบราซิลตั้งแต่วันที่ 2 -3กรกฎาคม ก่อนหน้านั้น นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้ประชุมกับข้าหลวงใหญ่การค้าอียู
เรียกร้องให้ทวีปอเมริกาขยายการลงทุน
การเยือน 2 ประเทศในทวีปอเมริกาของรองนายกรัฐมนตรีเวืองดิ่งเหวะมีวัตถุประสง์เดียวกันคือเพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยในกรอบการเยือนประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านของเวียดนาม รองนายกรัฐมนตรีเวืองดิ่งเหวะ ได้เสนอให้สหรัฐสร้างช่องทางการสื่อสารกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆของเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ประเมินเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้า และนโยบายด้านอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเวียดนาม ตลอดจนผลักดันการอนุมัติข้อตกลงการเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อน สงวนเงินโอดีเอและปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเพื่อสนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาในเวียดนาม โอกาสนี้ ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 20 ลำ รวมมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างสายการบินแบมบูแอร์เวส์ของเวียดนามกับบริษัทโบอิ้ง ส่วนหน่วยงานศุลกากรทั้ง 2 ประเทศได้เห็นพ้องเกี่ยวกับการเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงร่วมมือและสนับสนุนด้านศุลกากร หรือ CMAA
ส่วนในกรอบการเยือนประเทศบราซิลอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการบิน การเกษตรและความร่วมมือระหว่างหอการค้าและอุตสาหกรรมทั้ง 2 ประเทศแล้ว เวียดนามและบราซิลได้เสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกลาโหมและหารือถึงการลงนามข้อตกลงคุ้มครองด้านการค้าและข้อตกลงเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อน ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวจะเอื้อให้แก่การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนในเวลาข้างหน้า
เวียดนามอาจกลายเป็นประเทศนำเข้าข้าวโพดและถั่วเหลืองรายใหญ่ของบราซิล อีกทั้งพิจารณานำเข้าเนื้อวัวจากบราซิลและพร้อมร่วมมือด้านการลงทุน การผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร การผลิตเกษตรที่ปลอดสารพิษ การท่องเที่ยว การศึกษาและฝึกอบรมและเภสัชภัณฑ์ ส่วนบราซิลจะผลักดันการนำเข้ากาแฟ ปลาสวายและกุ้งแช่แข็งของเวียดนาม
เสร็จสิ้นข้อตกลงการค้าที่สำคัญๆกับยุโรป
หนึ่งในประเด็นที่สำคัญของความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างเวียดนามกับอียูในปัจจุบันคือข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป หรือ EVFTA ซึ่งในการประชุมระหว่างนาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามกับนาง เซซิเลียมัลสตรอมข้าหลวงใหญ่การค้าอียู ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบกรอบทางนิตินัยของข้อตกลง EVFTA เพื่อมุ่งสู่การลงนามและการอนุมัติข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า“การประชุมครั้งนี้มีขึ้นต่อจากการเยือนประเทศยุโรปของนาย เหงวียนวันบิ่ง หัวหน้าคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนกลางเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบกรอบทางนิตินัยของข้อตกลง EVFTA วางแผนการลงนามข้อตกลงนี้ในปลายปี 2018 และผลักดันการอนุมัติในต้นปี 2019 ซึ่งถ้าหากแผนการดังกล่าวได้รับการปฏิบัติตรงตามกำหนดก็จะเอื้อให้แก่การส่งออกในปีต่อต่อๆไป”
ควบคู่กับการเสร็จสิ้นการตรวจสอบกรอบทางนิตินัยของข้อตกลง EVFTA การที่ข้อตกลงนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอียูมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยในกรอบการเยือนประเทศกรีซ และประเทศบัลแกเรียของนาย ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ทั้ง 2 ฝ่ายได้สนับสนุนการผลักดันการลงนามและอนุมัติข้อตกลง EVFTA โดยเร็วเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามกับอียูและการพัฒนาของแต่ละประเทศ
ส่วนในมุมมองความสัมพันธ์ด้านการค้าทวิภาคี โอกาสนี้ เวียดนามและกรีซได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการค้าในด้านที่มีจุดแข็ง เช่น การขนส่งทางทะเล โลจิสติก การต่อเรือ การบริการท่าเรือ การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าการเกษตร พร้อมทั้งเห็นพ้องเกี่ยวกับข้อตกลงเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อนและข้อตกลงการขนส่งทางทะเล การปฏิบัติบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การศึกษา ฝึกอบรม งานด้านโบราณคดีและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ส่วนในกรอบการเยือนประเทศบัลแกเรีย ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติโครงการร่วมทุนผลิตสินค้าให้แก่ตลาดยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ การจัดการประชุมครั้งที่ 24 คณะกรรมการร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการประชุมครั้งที่ 5 คณะกรรมการร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การส่งเสริมการค้า การลงทุน อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการทั้ง 2 ประเทศเชื่อมโยง สำรวจตลาดและลงทุน
ควบคู่กับความสัมพันธ์ด้านการเมือง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนถือเป็นปัจจัยที่สำคัญและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆ การที่เวียดนามผลักดันการแลกเปลี่ยนด้านการค้าจะช่วยส่งเสริมการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในเชิงลึกและยกระดับสถานะของเวียดนามให้สูงเด่นยิ่งขึ้นในภูมิภาคและโลก.