นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี – 7 ขยายวง ณ ประเทศญี่ปุ่น (VNA)

ส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามร่วมมือกับประเทศต่างๆ สร้างสรรค์โลกที่สันติภาพ

ในกิจกรรมเหล่านี้ เวียดนามได้ส่งสารเกี่ยวกับการร่วมมือกับประเทศต่างๆ สร้างสรรค์โลกที่สันติภาพและเสถียรภาพ โดยในการเยือนประเทศลาว ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้เข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 20 กิจกรรม ร่วมทั้งการเจรจากับเลขาธิการใหญ่พรรคฯ และประธานประเทศลาว ซึ่งถือเป็นการยืนยันเกี่ยวกับการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อความสัมพันธ์พิเศษเวียดนาม – ลาวและส่งสารที่ว่า “เวียดนามและลาวจะร่วมกันพัฒนาเจริญรุ่งเรือง” ต่อจากนั้นคือการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี – 7 ขยายวงของนายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ส่งสารสำคัญๆ ของเวียดนามคือ ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทั่วโลกอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ความสำคัญต่อความสามัคคีระหว่างประเทศ ยืนหยัดความร่วมมือพหุภาคี การพัฒนาอย่างยั่งยืน การรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อรักษาความสมดุล ความเหมาะสมและความกลมกลืนระหว่างผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมร่วมมือกับสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลก นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า

“สำหรับความร่วมมือพหุภาคี เวียดนามได้เสนอมาตรการเพื่อเข้าถึงและมาตรการแก้ไขที่สำคัญๆ ในฐานะประเทศที่กำลังพัฒนาและเศรษฐกิจกำลังปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและการผสมผสานกับกระแสโลอย่างกว้างลึกและรอบด้าน วิธีการเข้าถึงและข้อเสนอต่างๆ ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ระบุในการประชุมครั้งนี้ได้รับคำชื่นชมจากประเทศและองค์กรต่างๆ ในทั่วโลก มีส่วนร่วมสร้างสรรค์วิธีการเข้าถึงที่ยุติธรรมเพื่อแก้ไขความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาธัญญาหาร สาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปรับเปลี่ยนพลังงานเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”

ประธานประเทศ หวอวันเถือง เจรจากับ นาย ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศลาว (VNA)

นอกจากนี้ ในการประชุมผู้นำอาเซียน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ก็ได้ส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่ร่วมมือกับประเทศต่างๆ สร้างสรรค์โลที่สันติภาพ เสถียรภาพ ซึ่งนี่คือสารที่ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้ยืนยันอย่างชัดเจนในการเยือนประเทศคิวบา ประเทศอาร์เจนตินาและประเทศอุรุกวัยอย่างเป็นทางการผ่านกิจกรรมที่คึกคักกว่า 80 กิจกรรมและการลงนามข้อตกลงต่าง ๆ เกือบ 30 ฉบับ

ประเทศเวียดนามที่กำลังพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก

ในขณะเดียวกัน กิจกรรมการต่างประเทศที่สำคัญๆ ที่มีขึ้นในประเทศเวียดนามก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ทำเนียบประธานประเทศ ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้ให้การต้อนรับนาย เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ที่เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ส่วน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ก็ให้การต้อนรับ  นาย Petr Fiala  นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก ที่เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการพร้อมคณะผู้แทนระดับสูง ต่อจากนั้นคือการเยือนเวียดนามของนาย ซาวีเยร์ เบตแตล นายกรัฐมนตรีและคณะผู้แทนระดับสูงของลักเซมเบิร์ค นาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ นาย Park Hark Kyu ผู้อำนวยการใหญที่ดูแลการเงินของเครือบริษัท Samsung และล่าสุดคือการเยือนเวียดนามของนาง Ngozi Okonjo – Iweala ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลกหรือ WTO  ในกิจกรรมเหล่านี้ ผู้นำระดับสูงของเวียดนามต่างส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่กำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากบรรดานักการทูตในเวียดนาม นาย Saadi Salama เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเวียดนาม ให้ข้อสังเกตว่า

“ในอดีต เวียดนามเป็นที่รู้จักผ่านข่าวเกี่ยวกับสงคราม แต่ปัจจุบันนี้ ทุกคนรู้จักประเทศเวียดนามจากการเป็นประเทศที่พัฒนาในด้านเศรษฐกิจสังคมและการท่องเที่ยว ดังนั้น เวียดนามเป็นจุดนัดพบที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไปไหนมาไหนใคร ๆ ก็พูดถึงประเทศเวียดนาม”

ให้การต้อนรับนาย เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย (VGP)

ในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนปัจจุบัน กิจกรรมการต่างประเทศของผู้นำพรรคฯ และรัฐเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาได้ส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัว เปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก มีประสิทธิภาพและร่วมมือกับประเทศอื่นๆ สร้างสรรค์โลกที่สันติสุข สิ่งเหล่านี้ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ ยกระดับสถานะและบทบาทของเวียดนามบนเวทีโลก ปกป้องและผลักดันผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่ถูกระบุในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 คือ “ความเป็นอิสระ พึ่งตนเอง มีความสัมพันธ์การต่างประเทศแบบพหุภาคีที่หลากหลาย” เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก.