ส่งเสริมจิตใจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเองในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ

(VOVWORLD) - เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวและพัฒนาแบบก้าวกระโดดหลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความมีอิสระและการพึ่งตนเองนับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945


ส่งเสริมจิตใจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเองในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ - ảnh 1นโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างถูกทิศทางและมีประสิทธภาพได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ

หลังการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 จนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจเวียดนามนับวันเปิดกว้าง มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตลาดภายในประเทศและขยายตลาดต่างๆในทั่วโลก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นช่องทางการระดมเงินทุนที่สำคัญของเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย สร้างงานทำ ยกระดับทักษะการบริหารและเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้แก่เศรษฐกิจ ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในทั่วโลก เมื่อปี 2019 เวียดนามมีโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกว่า 4 พันโครงการ รวมเงินจดทะเบียนเกือบ 3 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 24 เท่าเมื่อเทียบกับปี 1990 หลังการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอด 36 ปี เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจกับหลายประเทศและหลังจากเข้าเป็นสมาชิกของ WTO เมื่อปี 2006 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ลงนามข้อตกลง FTA ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาครวม 15 ฉบับ ซึ่งการเข้าร่วมและปฏิบัติข้อตกลง FTA ได้สร้างโอกาสที่สำคัญ สร้างแรงกระตุ้นให้แก่เศรษฐกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์

จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2019 ที่ร้อยละ7.2  การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อระบบห่วงโซ่อุปทาน ทำให้การผลิตหยุดชะงักและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามอยู่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ในขณะที่ประเทศต่างๆมีการขยายตัวติดลบ ซึ่งเวียดนามได้ปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกันคือการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด พรรคและรัฐได้กำชับให้สร้างสรรค์เศรษฐกิจอย่างอิสระ พึ่งตนเอง ฟื้นฟูและพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในยุคชีวิตวิถีใหม่ นี่เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์และกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเพราะมีแต่การส่งเสริมพลังภายในเท่านั้นที่จะค้ำประกันอิสรภาพ การพึ่งตนเองและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญและสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การพัฒนาประเทศในระยะต่างๆ

นโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างถูกทิศทางและมีประสิทธภาพได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2022 ทั่วประเทศมีสถานประกอบการที่จดทะเบียนก่อตั้งใหม่กว่า 7 หมื่น 6 พันแห่ง มีการจ้างงานเกือบ 5 แสน 1 หมื่น 5 พันตำแหน่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 ในด้านจำนวนสถานประกอบการและร้อยละ 6.3 ในด้านการจ้างงานเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีเงินทุนจดทะเบียนเพิ่มเติมอีกกว่า 2,730 ล้านล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.3 ซึ่งถ้าคิดรวมกับสถานประกอบการที่กลับมาประกอบธุรกิจอีกครั้งตัวเลขนี้จะอยู่ที่กว่า 1 แสน 1 หมื่น 6 พันแห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี2021 นาย หว่างวันเกื่อง ผู้แทนสภาแห่งชาติได้ให้ข้อสังเกตว่า

“อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2021อยู่ที่ร้อยละ 2.58และในปี 2020 ที่ร้อยละ2.91 ส่วนก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2019 อัตราการขยายตัวจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 5.56 ในขณะที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในปี 2021 ทำให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการและมีแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ตกงานและเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก แต่ถึงกระนั้น รายรับงบประมาณแผ่นดินในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับแผนการที่วางไว้และใน 5 เดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 57 ซึ่งจากศักยภาพของเศรษฐกิจมหภาค มีการคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวในปี 2022 จะอยู่ที่ร้อยละ 6.9”

การรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเป็นปัจจัยที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนยุโรปและเวียดนามกำลังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ  การที่บริษัท Lego ได้รับใบอนุญาตลงทุนในเวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทนี้และเครือบริษัทหุ้นส่วนของ Apple ที่เพิ่มเงินลงทุนอีก 300 ล้านดอลลาร์ในเวียดนามแสดงให้เห็นว่า โครงการลงทุน FDI ในเวียดนามนับวันมีคุณภาพมากขึ้น นาย เหงวียนหงอกตว่าน รองหัวหน้าสถาบันเศรษฐศาสตร์สังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้เผยว่า

“ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 พรรคฯได้ชี้นำการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองและยกระดับประสิทธิภาพของการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านเศรษฐกิจ พรรคฯได้มีแนวทางผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย สร้างสรรค์เศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองและพัฒนาเวียดนามเป็นประเทศอุตสาหกรรม ส่งเสริมพลังภายในอย่างเต็มที่ แสวงหาการสนับสนุนจากต่างประเทศ เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและยั่งยืน”

ทั้งนี้ จิตใจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเองได้ช่วยให้ประชาชาติเวียดนามสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายทั้งปวงเพื่อก่อตั้งรัฐของชนชั้นกรรมกรและชาวนารัฐแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 77 ปีก่อนและส่องแสงสว่างในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภาวะโควิด-19 และท่ามกลางปัญหาโลกต่าง ๆเพื่อปฏิบัติความคาดหวังเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด