(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง นาย หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลังการเยือนจีนของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริม ขยาย ยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพความร่วมมือในด้านต่างๆ นำความร่วมมือที่จริงจังระหว่างเวียดนามกับจีนพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึกและบรรลุผลงานที่เป็นรูปธรรม
นี่คือการเยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 11 ปีของนายกรัฐมนตรีจีน และเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของนาย หลี่เฉียง ในฐานะนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของพรรค รัฐจีนและนายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง ต่อความสัมพันธ์เวียดนาม-จีน
การเยือนครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังมุ่งสู่การฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 18 มกราคมและเป็นการสานต่อเกียรติประวัติแห่งการพบปะหารือระดับสูงระหว่างสองพรรค สองรัฐ ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านและส่งสเริมการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเวียดนาม-จีนที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์
พลังขับเคลื่อนแห่งการพัฒนาที่เข้มแข็งนับตั้งการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเวียดนาม - จีน
นับตั้งแต่ผู้นำของทั้งสองพรรคและสองประเทศเห็นพ้องที่จะสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเวียดนาม-จีนที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ในโอกาสการเยือนเวียดนามของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศยังคงพัฒนาอย่างเข้มแข็งและขยายผลไปสู่ทุกระดับและทุกภาคส่วน อีกทั้งบรรลุความสำเร็จที่สำคัญในทุกด้าน โดยการแลกเปลี่ยนระดับสูงและทุกระดับได้รับการส่งเสริมมากขึ้น นาย ฝ่ามซาวมาย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนแสดงความเห็นว่า
“เนื้อหาที่โดดเด่นที่สุดในการพบปะคือทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันถึงการให้ความสนใจต่อกันในนโยบายต่างประเทศของตน โดยเวียดนามถือการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนคือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆและเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกัน จีนย้ำถึงการยึดมั่นปฏิบัตินโยบายมิตรภาพกับเวียดนาม และระบุเวียดนามในแนวทางที่ต้องความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน จีนยังยืนยันถึงการสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความผาสุกและสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อิสระและพึ่งตนเอง”
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนนับวันเข้าสู่ส่วนลึกและจริงจังมากขึ้น จีนยังคงเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดและเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียน และหุ้นส่วนรายใหญ่อันดับ 5 ของจีนในระดับโลก ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างสองประเทศบรรลุ 1 แสน 4 หมื่น 8 พัน 6 ร้อยดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่า จะบรรลุ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปลายปีนี้ ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายกำลังส่งเสริมการเชื่อมโยงทางรถไฟ ถนนไฮเวย์และโครงสร้างพื้นฐานในจุดผ่านแดน ยกระดับการเชื่อมโยงด้านศุลกากรอัจฉริยะและจุดผ่านแดนอัจฉริยะเพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับการแลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
ความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น วัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนได้บรรลุผลงานที่เป็นรูปธรรม ทั้งสองฝ่ายยังประสบความสำเร็จในการสร้างพรมแดนทางบกเวียดนาม-จีนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืน นาง เหงวียนถิเหื่อง รองประธานคณะกรรมการชายแดนแห่งชาติยืนยันว่า
“การแลกเปลี่ยนทางการค้าผ่านจุดผ่านแดนเติบโตอย่างเข้มแข็ง งานด้านการเปิดและปรับปรุงจุดผ่านแดนแดนได้บรรลุผลงานที่โดดเด่นมากมาย การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ชายแดนก็ได้รับการส่งเสริม การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือมิตรภาพระหว่างท้องถิ่นในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศได้รับการธำรงในรูปแบบที่หลากหลายและเป็นรูปธรรม กลไกความร่วมมือได้รับการจัดขึ้นเป็นประจำโดยบรรลุผลงานที่จริงจัง ผู้นำทั้งสองประเทศประเมินความร่วมมือในการบริหารชายแดนทางบกว่า เป็นจุดเด่นในความสัมพันธ์เวียดนาม-จีน”
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังพยายามธำรงการหารือ ควบคุมความขัดแย้งทางทะเลเป็นอย่างดี และประสานงานอย่างเข้มแข็งในฟอรั่มพหุภาคี
กระชับกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้าน
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่พัฒนาเป็นอย่างดีดังกล่าว ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง จะเจรจาและพบปะกับเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมระหว่างผู้นำของทั้งสองพรรคและสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยเฉพาะ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศจะหารือและกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่จริงจังในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน วัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง ยังสร้างแรงกระตุ้นที่เข้มแข็งเพื่อให้หน่วยงานทุกระดับและท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามธำรงและขยายความสัมพันธ์ที่กำลังมีอยู่กับจีนต่อไป เพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างพื้นฐานทางสังคมที่ยั่งยืนและดีงามมากขึ้นเพื่อการพัฒนาของความสัมพันธ์ทวิภาคี การเยือนครั้งนี้ทำนุบำรุงความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านและประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเวียดนาม-จีน ซึ่งมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาที่จะถึง.