สร้างพลังขับเคลื่อนและพื้นฐานใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลีย
(VOVWORLD) - วันที่ 22 สิงหาคม นาย สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและหลังจากที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ การเยือนนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนและพื้นฐานใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียได้รับการสถาปนาเนื่องในโอกาสการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 ในตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมทุกเสาหลักของความร่วมมือตามแถลงการร่วมที่สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งสร้างก้าวกระโดดทั้งคุณภาพและปริมาณและมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเดินทางมาเยือนเวียดนามหลังประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญต่อเวียดนามและความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ
ผลประโยชน์ร่วมกันและความไว้วางใจระหว่างกัน
จุดเด่นในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศคือ การเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันและความไว้วางใจระหว่างกัน ซึ่งสะท้อนผ่านการพบปะและการเยี่ยมเยือนระหว่างกันในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับสูง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนก็ได้มีความคืบหน้าต่างๆ
ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าคือจุดเด่นของความร่วมมือเวียดนาม – ออสเตรเลีย โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2018 ได้บรรลุเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใน 6 เดือนแรกของปี 2019 อยู่ที่กว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจุบันนี้ ออสเตรเลียเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 19 ของเวียดนามโดยเงินทุนจดทะเบียนกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ สถานประกอบการภาคเอกชนรายใหญ่ๆ ของเวียดนาม เช่น VinGroup, TH Group และVietjet ได้เริ่มปฏิบัติโครงการร่วมมือและลงทุนในออสเตรเลีย ส่วนเงินโดดีเอที่ออสเตรเลียสงวนให้แก่เวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อภารกิจการปฏิรูปเศรษฐกิจและการพัฒนาแหล่งบุคลากรในเวียดนาม
แม้มีก้าวพัฒนาอย่างข้ามขั้นในปี 2018 แต่ศักยภาพความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนยังคงมีอีกมาก นาย Richard Yetsenga นักเศรษฐศาสตร์ หัวหน้าหน่วยวิจัยของธนาคาร ANZ (Chief Economist and Head of Research at ANZ) ให้ข้อสังเกตว่า “เวียดนามกำลังดึงดูดสถานประกอบการต่างชาติผ่านความได้เปรียบต่างๆ เช่น มีแรงงานฝีมือดี มีค่าบริการด้านโลจิสติกส์ที่สอดคล้องกับผู้ที่มีรายได้ปานกลาง เศรษฐกิจเวียดนามมีโอกาสเชื่อมโยงกับตลาดใหญ่ๆ เนื่องจากเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีกว่า 100 ฉบับกับหลายประเทศ”
นอกจากก้าวกระโดดในด้านความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้า ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้นยังเป็นพื้นฐานให้เวียดนามและออสเตรเลียขยายความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้าน ช่วยให้เวียดนามและออสเตรเลียมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างสรรค์ภูมิภาคที่สันติภาพและเสถียรภาพ นาย Ben Bland ผู้อำนวยการโครงการวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สังกัดสถาบันวิจัย Lowy ของออสเตรเลียให้ข้อสังเกตว่า ออสเตรเลียและเวียดนามควรร่วมมือกันเพื่อขยายบทบาทและมีเสียงพูดเดียวกันในภูมิภาค “เวียดนามคือหุ้นส่วนสำคัญเพราะเป็นเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งสองประเทศสนใจในเรื่องเดียวกัน เวียดนามก็เป็นประเทศที่มีการเตรียมแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับแต่ละปัญหา ดังนั้น ผมคิดว่า เวียดนามและออสเตรเลียยังมีศักยภาพอีกมากในการขยายความสัมพันธ์ทวิภาคี สำหรับออสเตรเลีย เวียดนามมีบทบาทเป็นแกนหลักและเป็นหุ้นส่วนที่ช่วยสร้างความสมดุลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค”
การเยือนที่สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่
ดังนั้น นอกจากเป้าหมายหลักคือผลักดันความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มอร์ริสัน ยังเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพิ่มความไว้วางใจระหว่างกันเพื่อมุ่งสู่ภูมิภาคที่สันติภาพ เสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามก่อนการเยือนประเทศเวียดนาม นาย มอร์ริสัน ได้ยืนยันว่า นี่คือโอกาสที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ที่จะพบปะกับนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ได้รับการสถาปนาเมื่อปี 2018 และแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลก ในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังต้องรับมือกับความลำบากและความท้าทายต่างๆเนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ออสเตรเลียให้คำมั่นที่จะขยายความสัมพันธ์กับอาเซียนและเวียดนาม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนอย่างเข้มแข็ง การสร้างเครือข่ายกับหุ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งเวียดนามจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากต่อประชาชนทั้งสองประเทศในการธำรงความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี มอร์ริสันและผู้นำเวียดนามยังหารือถึงปัญหาความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาคและโลก รวมไปถึงเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลตะวันออกเพราะ ออสเตรเลียมีบทบาทสำคัญและมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเป็นอย่างมาก การเยือนเวียดนามครั้งนี้ถูกคาดหวังว่า จะสร้างพลังขับเคลื่อนและศักยภาพใหม่ ตลอดจนขยายความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม – ออสเตรเลียให้กว้างลึกมากขึ้น.