(VOVWORLD) - การประชุมใหญ่ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามครั้งที่ 10 วาระปี 2024 – 2029 ได้เปิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 17 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย ซึ่งมีความหมายพิเศษในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังมุ่งมั่นปฏิบัติเป้าหมายต่างๆเพื่อย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาด โดยจิตใจแห่งมหาสามัคคีชนในชาติได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็ง กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้รับการธำรงอย่างมั่นคงถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามปฏิบัติเป้าหมายต่างๆที่วางไว้ให้ประสบความสำเร็จ
การประชุมใหญ่ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามครั้งที่ 10 วาระปี 2024 – 2029ได้เปิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 17 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย |
เวลา 2 ใน 3 ของกระบวนการปฏิบัติมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 วาระปี 2021-2025 ได้ผ่านไปแล้วในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน มีอุปสรรคและความท้าทายมากมาย ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ มีความมุ่งมั่นและพยายามเป็นอย่างมาก รวมถึงมีความสามัคคีและความร่วมแรงร่วมใจของทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกคนเพื่อปฏิบัติเป้าหมายต่างๆให้ประสบความสำเร็จ
พรรคให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อบทบาทของประชาชน
แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามมีบทบาทที่สำคัญในการระดมประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม โดยตอนยังมีชีวิตอยู่ ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติคือประเด็นที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์และเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อความสำเร็จของการปฏิวัติ โดยในกว่า 90 ปีก่อน นับคั้งแต่มีการก่อตั้งพันธมิตรเพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยม ซึ่งเป็นองค์กรพื้นฐานของการก่อตั้งแนวร่วมประชาชาติเอกภาพเวียดนามที่มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อภารกิจมหาสามัคคีชนในชาติ เป็นปัจจัยที่ค้ำประกันชัยชนะของการปฏิวัติเวียดนามและมีส่วนร่วมในการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประชาชาติเวียดนาม
เมื่อ 11 ปีก่อน นับเป็นครั้งแรกที่บทบาทของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามในการเป็นตัวแทนของผลประโยชน์ที่ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมายของประชาชนถูกระบุในรัฐธรรมนูญและนับเป็นครั้งแรกที่รัฐธรรมนูญได้ระบุบทบาทการตรวจสอบและสะท้อนเสียงพูดทางสังคมของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม ซึ่งนี่เป็นพัฒนาการของกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อยกระดับบทบาทของแนวร่วมปิตุภูมิให้ทัดเทียมกับสถานะเพื่อเสริมสร้างความเห็นพ้องทางสังคมเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้ก้าวรุดหน้าต่อไป ต่อมาเมื่อปี 2023 กรมการเมืองพรรคได้ประกาศใช้มติให้พรรคสาขาแนวร่วมปิตุภูมิอยู่สังกัดกรมการเมืองพรรคแทนที่คณะเลขาธิการกลางพรรค ซึ่งนี่เป็นมติที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์เพราะในตอนนั้นมีแค่พรรคสาขาสภาแห่งชาติ พรรคสาขารัฐบาลและพรรคสาขาแนวร่วมปิตุภูมิเป็นองค์กรสังกัดกรมการเมืองพรรคเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยกระดับบทบาทและหน้าที่ของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามในภารกิจการปฏิวัติในปัจจุบัน ในปี 2023 คณะกรรมการกลางพรรค ยังได้ประกาศมติที่ 43 เมื่อวันที่ 24 พฤษจิกายนเกี่ยวกับการส่งเสริมเกียรติประวัติ พลังที่เข้มแข็งของมหาสมัคคีชนในชาติ การสร้างสร้างประเทศให้นับวันเจริญรุ่งเรืองและมีความสุข โดยแนวร่วมปิตุภูมิและองค์กรด้านการเมืองและสังคมเป็นแกนหลักในการระดมประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติความคาดหวังเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประเทศให้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีและมีความผาสุก ซึ่งเนื้อหาเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจเป็นพิเศษของพรรคต่อบทบาทของประชาชนและหน้าที่ของแนวร่วมปิตุภูมิในการระดม ส่งเสริมความสามัคคีและความคิดสร้างสรรค์ของประชาชนทุกคนเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ นาย หวิ่งด๊าม อดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิได้เผยว่า
“ในช่วงแรกๆที่ได้รับการก่อตั้ง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุว่า เพื่อปฏิบัติภารกิจการปฏิวัติให้ประสบความสำเร็จต้องมีความเชื่อมั่น อาศัยและส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของชนทั้งชาติ ต้องยืนหยัดถือประชาชนเป็นรากฐาน ซึ่งทัศนะนี้ได้รับการสานต่อ ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมหาสามัคคีเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อชัยชนะที่ยั่งยืนของภารกิจการปฏิวัติเวียดนาม”
ส่งเสริมความสามัคคีในศักราชแห่งการผงาด
เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับการปกป้องและสร้างสรรค์ประเทศ เปิดศักราชแห่งเอกราชและเสรีภาพตั้งแต่ปี 1945 ต่อจากนั้นคือศักราชแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศ ปัจจุบัน ภายหลังปฏิบัติภารกิจ đổi mới หรือ เปลี่ยนแปลงใหม่มาเกือบ 40 ปี เวียดนามได้พัฒนาเป็น 1 ใน 40 เศรษฐกิจที่มีจีดีพีสูงที่สุดในโลก เป็น 1 ใน 20 ตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประเทศอยู่แถวหน้าเกี่ยวกับดัชนีการพัฒนามนุษย์และนวัตกรรมในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจเท่าเทียมกัน
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม กล่าวปราศรัยชี้นำการประชุม |
ทั้งนี้ ผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของศักราชแห่งเอกราชและเสรีภาพและศักราชแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศได้สร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่เวียดนามในการย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ นั่นคือศักราชแห่งการผงาด โดยการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่13 ปี2021 ได้ตั้งเป้าหมายว่า จนถึงปี 2045 เวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนา มีรายได้ในระดับสูง ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีความมุ่งมั่นปฏิบัติของทั้งพรรคและประชาชนทุกคน ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากได้รับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ยืนยันว่า
“ต้องส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ยืนหยัดจุดยืน ทัศนะและการปฏิบัติที่ถือประชาชนเป็นรากฐาน ประชาชนเป็นปัจจัยหลักและเป็นศูนย์กลางของภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ค้ำประกันให้ประชาชนทุกคนได้รับผลประโยชน์จากผลสำเร็จของภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศ มีความสุข ปลอดภัยและไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
ในการประชุมใหญ่ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามครั้งที่ 10 วาระปี 2024 – 2029 จะมีการส่งสารและคำเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเชิดชูจิตใจแห่งการพึ่งตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ยืนหยัดเป้าหมาย “ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม” ซึ่งการส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและความร่วมแรงร่วมใจจะนำประเทศย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาดอย่างมั่นคง.