(VOVworld) –  อาเซียนได้รับการก่อตั้งเมื่อ๔๖ปีก่อน  ในตลอดเกือบ๕๐ปีที่ผ่านมา  อาเซียนได้มีก้าวเดินที่เข้มแข็งในกระบวนการสร้างความเป็นเอกภาพเพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี๒๐๑๕ แต่จะต้องทำเช่นไรเพื่อให้อาเซียนบรรลุเป้าหมายในขณะที่เหลือเวลาไม่มากและต้องเผชิญความท้าทายต่างๆ นี่เป็นเนื้อหาของการให้สัมภาษณ์ของนายเลเลืองมินห์เลขธิการอาเซียนต่อผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามในหัวข้อ“อาเซียนสามัคคีเพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็ง”

เลขาธิการอาเซียนเลเลืองมินห์(Photo:dan tri)

เลขาธิการอาเซียนเลเลืองมินห์เผยว่า ใน๕ปีที่จะถึง อาเซียนจะมีกิจกรรมที่สำคัญสองจุดคือ สร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี๒๐๑๕ และรำลึกครบรอบ๕๐ปีการก่อตั้งอาเซียนภายในปี๒๐๑๗ซึ่งเหลือเวลาไม่มากแตละยังมีโครงการที่ต้องทำมากมาย ด้วยเหตุนี้ อาเซียนกำลังมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติขั้นตอนการพัฒนาของภูมิภาค ท่านเลเลืองมินห์กล่าวว่า“จนถึงปัจจุบัน บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนได้ปฏิบัติแผนการต่างๆมากมาย เช่น การสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจซึ่งจนถึงเดือนมีนาคมปี๒๐๑๓ ประเทศอาเซียนได้ดำเนินตามแผนการแล้วร้อยละ๘๐เพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประชาคม อย่างไรก็ดี ยังมีงานอีกมายที่ต้องทำตั้งแต่บัดนี้ถึงปี๒๐๑๕ โดยเฉพาะ แผนการที่เหลือซึ่งถือว่า มีความยากในการปฏิบัติ ดังนั้นบรรดาประเทศอาเซียนต้องมีความพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อปฏิบัติ” ท่านเลเลืองมินห์กล่าวว่า ควบคู่กับความพยายามปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อบรรลุเป้าหมายสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี๒๐๑๕   
ปัจจุบัน อาเซียนกำลังเตรียมวางวิสัยทัศน์ และแนวทางดำเนินงานของอาเซียนหลังปี๒๐๑๕  อาเซียนกำลังวางระเบียบเพื่อดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อให้ประชาคมอาเซียนพัฒนาต่อไป และผสมผสานในทุกด้านและลึกซึ้งยิ่งขึ้น นำอาเซียนพัฒนากลายเป็นองค์การระดับภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูง มีการพัฒนาที่เท่าเทียมกัน ยั่งยืนและยุติธรรม อาเซียนเริ่มกระบวนการพิจารณาการปรับปรุงสำนักงานต่างๆในอาเซียน รวมทั้งการยกระดับทักษะของคณะเลขาธิการอาเซียน ขยายความสัมพันธ์ต่างประเทศกับบรรดาหุ้นส่วนภายนอกเพื่อใช้ความช่วยเหลือในการพัฒนาประชาคม  ท่านเลเลืองมินห์ชี้ชัดว่า ควบคู่กับความท้าทายภายในกลุ่ม อาเซียนกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมายจากภายนอก เช่น โรคระบาด น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ น้ำทะเลหนุนและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ ความวิตกกังวลด้านความมั่นคงของอาเซียนในปัจจุบันคือ การพิพาทในทะเลตะวันออก   ต่อปัญหาอ่อนไหวนี้ อาเซียนได้รักษาความสามัคคี และความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ “ประเทศสมาชิกอาเซียนมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของหลักการ๖ข้อของอาเซียนและความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออก การรักษาความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค อาเซียนตระหนักว่า  การแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของหลักการต่างๆดังกล่าวไม่เพียงแต่มีความหมายต่อการผดุงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพให้แก่ประเทศอาเซียนเท่านั้นหากรวมทั้งจีนและประเทศที่เกี่ยวข้องถึงการพิพาทนี้โดยตรง”
ท่านเลเลืองมินห์เผยว่า การแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพ และความมั่นคงในภุมิภาคเท่านั้น หากยังค้ำประกันให้แก่ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือทะเล ดังนั้น ในหลายปีที่ผ่านมา บรรดาประเทศหุ้นส่วนจึงให้ความสนใจถึงอาเซียน ให้การสนับสนุนจุดยืนของอาเซียน รวมทั้ง การแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกและให้ความช่วยเหลือในการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน“ทุกประเทศหุ้นส่วนต่างให้การสนับสนุนจุดยืนของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกบนหลักการ๖ข้อของอาเซียนและสนับสนุนการใช้พลังภายในของอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจีนบนพื้นฐานของการค้ำประกันความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค ความมั่นคงในการเดินเรือทะเล และความมั่นคงในทะเล  ปัจจุบันมี๗๔ประเทศที่มิใช่สมาชิกได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นความปรารถนาและความสนใจของประเทศต่างๆในการขยายความร่วมมือกับอาเซียนในสภาวการณ์ที่อาเซียนต้องการความช่วยเหลือและความร่วมมือกับบรรดาหุ้นส่วนเพื่อดำเนินมาตรการต่างๆให้บรรลุเป้าหมายการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี๒๐๑๕”          
สุดท้าย ท่านเลเลืองมินห์ยืนยันว่า อาเซียนจะส่งเสริมดอกผลใน๔๖ปีที่ผ่านมา ความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และความพยายามเพื่อฟันฝ่าความท้ายทาย รักษาบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนให้มีความเข้มแข็งมั่นคง เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นและพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี๒๐๑๕./.