เปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ระหว่างเวียดนามกับอิสราเอล

(VOVworld) ตามคำเชิญของประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ท่าน ริเวน รูวี ริฟลิน ประธานาธิบดีอิสราเอลและภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 19-25 มีนาคม โดยมีวัตถุประสงค์ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอิสราเอลในด้านต่างๆให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

(VOVworld) ตามคำเชิญของประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ท่าน ริเวน รูวี ริฟลิน ประธานาธิบดีอิสราเอลและภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 19-25 มีนาคม โดยมีวัตถุประสงค์ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอิสราเอลในด้านต่างๆให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

เปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ระหว่างเวียดนามกับอิสราเอล - ảnh 1
ประธานาธิบดีอิสราเอลและประธานประเทศเวียดนาม

เวียดนามและอิสราเอลสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1993 ซึ่งในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการเสริมสร้างและผลักดันในหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 อิสราเอลได้รับรองเวียดนามเป็นเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างสมบูรณ์
ความสัมพันธ์ที่ดีงามในหลายด้าน
ในด้านการเมือง เวียดนามและอิสราเอลได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ที่น่าสนใจคือการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอิสราเอล ซิมอน เปเรส เมื่อปี 2011 และการเยือนอิสราเอลอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรี หว่างจุงหาย เมื่อปี 2015 เวียดนามและอิสราเอลได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับ รวมทั้งกรอบข้อตกลงร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเกษตรและการค้าเมื่อปี 1996 ข้อตกลงความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการสื่อสารเมื่อปี 2005 บันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายเมื่อปี 2015 ทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลครั้งแรกที่กรุงเทลอาวิฟเมื่อเดือนตุลาคมปี 2014
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การค้า เวียดนามและอิสราเอลได้มีก้าวเดินที่น่าประทับใจ โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 222 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2010 ขึ้นเป็นกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2016 ซึ่งสินค้าหลักที่เวียดนามส่งออกไปยังอิสราเอลคือโทรศัพท์มือถือและอะไหล่รองเท้า กาแฟ  มะม่วงหิมพานต์ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสัตว์น้ำ ส่วนสินค้าหลักที่เวียดนามนำเข้าจากอิสราเอลคือเครื่องจักรกล เทคโนโลยีชั้นสูงและปุ๋ย นอกจากการรับรองเวียดนามเป็นเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างสมบูรณ์แล้ว อิสราเอลก็กำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อิสราเอลหรือวีไอเอฟทีเอ จนถึงสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ อิสราเอลมีโครงการลงทุนเอฟดีไอ 25 ในเวียดนามรวมยอดเงินจดทะเบียนกว่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ 56 จากจำนวนทั้งหมด 116 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2013 ได้มีการดำเนินโครงการฟาร์มเลี้ยงวัวนมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงนำร่อง ซึ่งได้รับการช่วยเหลือด้านเทคนิกและเงินโอดีเอในรูปให้เปล่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากอิสราเอล นอกจากนี้ อิสราเอลยังให้คำมั่นที่จะจัดสรรวงเงินสินเชื่อ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่สถานประกอบการเวียดนามที่ร่วมมือและประกอบธุรกิจกับหุ้นส่วนอิสราเอล
ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาในท้องถิ่นหลายแห่ง อิสราเอลให้การช่วยเหลือการปฏิบัติโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านปศุสัตว์ การเพาะปลูกและระบบน้ำเพื่อการเกษตรในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ การวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกไม้ผลและการปลูกผักในโรงเรือน
สำหรับการศึกษา-ฝึกอบรมและความร่วมมือด้านแรงงาน ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน อิสราเอลได้รับนักศึกษาเวียดนามกว่า 2,100 คนไปศึกษาและทำงานในฟาร์มของอิสราเอลเป็นเวลา 1 ปี รับแรงงานด้านการเกษตรของเวียดนามไปทำงานในอิสราเอลเป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2010
เปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ระหว่างเวียดนามกับอิสราเอล - ảnh 2
พิธีต้อนรับประธานาธิบดีอิสราเอล

ศักยภาพความร่วมมือเวียดนาม-อิสราเอลยังมีอีกมาก

ก่อนการเยือนเวียดนาม ประธานาธิบดีอิสราเอล  ริเวน รูวี ริฟลิน ได้ยืนยันว่า ภายหลังกว่า 25 ปีที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เวียดนามและอิสราเอลมีศักยภาพและจุดแข็งมากมายที่ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มที่ โดยทั้งสองฝ่ายสามารถผลักดันความร่วมมือด้านการเกษตร ชลประทานและการอนุรักษ์แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นด้านที่อิสราเอลมีประสบการณ์และเทคโนโลยีชั้นสูงที่สามารถนำผลประโยชน์มาสู่เวียดนามในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มผลผลิตของผลิตภัณฑ์การเกษตรและจัดสรรน้ำประปาให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
ที่น่าสนใจ ในคณะที่เดินทางมาเยือนเวียดนามพร้อมกับประธานาธิบดีอิสราเอลครั้งนี้มีสถานประกอบการชั้นนำของอิสราเอลกว่า 50 แห่ง และจะมีการจัดฟอรั่มสถานประกอบการของทั้งสองประเทศเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่าย
ในกรอบการเยือน ประธานาธิบดีอิสราเอลและผู้นำเวียดนามจะแลกเปลี่ยนมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนแก้ไขความท้าทายในโลก อันจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศพัฒนายิ่งขึ้นในเวลาที่จะถึง. 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด